คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 598 ราย ณ วันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค. โดยในจำนวนนี้มี 167 รายที่แสดงอาการ และ 431 รายไม่แสดงอาการ
ส่วนเมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ค. จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 691 ราย โดยในจำนวนนี้มี 154 รายที่แสดงอาการ และ 537 รายไม่แสดงอาการ
อย่างไรก็ดี ไม่พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในจีนยังคงอยู่ที่ 5,226 ราย
การพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้นักลงทุนในตลาดการเงินกังวลว่า รัฐบาลจีนอาจจะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เมือสำคัญ ซึ่งรวมถึงนครเซี่ยงไฮ้
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของจีนขยายตัวเพียง 0.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ระดับ 5.5% อยู่มาก เนื่องจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19
ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ จีนเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่โควิด-19 เริ่มระบาดในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งส่งผลให้จีนสั่งล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เป็นเวลานานถึง 2 เดือน โดยบังคับให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และสั่งควบคุมการเดินทาง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานประสบกับภาวะชะงักงัน
แม้ว่าในช่วงต้นเดือนมิ.ย. นครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง และเมืองอื่น ๆ ของจีนได้เริ่มอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ แต่ก็ยังมีอีกหลายเมืองที่กลับมาใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดอีกครั้ง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 65)
Tags: COVID-19, จีน, ล็อกดาวน์, โควิด-19