บมจ.การบินไทย (THAI) อำนวยความสะดวกผู้โดยสารในช่วงเวลาที่มีปริมาณการเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องที่อาจต้องใช้เวลาในการรอรับบริการตรวจรับบัตรโดยสาร (Check-in) จากเคาน์เตอร์ตามปกติ โดยผู้โดยสารของการบินไทย สามารถเลือกใช้บริการ Check-in ได้ด้วยตนเอง 3 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 : Check-in ผ่าน Internet (thaiairways.com)
วิธีที่ 2 : Check-in ผ่าน Thai Airways mobile application
วิธีที่ 3 : Check-in ผ่านตู้ Check-in อัตโนมัติ (Self Check-in Kiosk) ที่จัดบริการไว้ที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออกบริเวณ Row B, C, D, E, F, G, H, J, K และผู้โดยสารสามารถนำสัมภาระโหลดได้ที่ Self Bag Drop Counter ที่ Row C (C1-C2), Row D (D1-D4) และ Row E (E1-E19) ซึ่งจะมีพนักงานคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในทุกจุดบริการ
สำหรับผู้โดยสารที่ Check-in ล่วงหน้าผ่าน Internet หรือ Thai Airways mobile application สามารถรับ Boarding pass ตัวจริง พร้อมป้ายติดกระเป๋าสัมภาระหรือ Baggage tag (ในกรณีมีสัมภาระที่จะโหลดใต้ท้องเครื่องบิน) ได้ที่ตู้ Check-in อัตโนมัติ
อนึ่ง ผู้โดยสารที่สามารถใช้บริการตู้ Check-in อัตโนมัติ ได้แก่
- ผู้โดยสารคนไทยและทุกสัญชาติ ที่เดินทางเส้นทางภายในประเทศทุกเส้นทาง และเส้นทางต่างประเทศ เฉพาะเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ และออสเตรเลีย
- ผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น ที่เดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น
- ผู้โดยสารที่ถือ EU พาสปอร์ต เดินทางในเส้นทางยุโรป ได้แก่ ลอนดอน โคเปนเฮเกน สตอกโฮล์ม ซูริก บรัสเซลส์ แฟรงก์เฟิร์ต และมิวนิก (ยกเว้น ปารีส)
ผู้โดยสารที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผู้โดยสาร Meet and Assist ประเภทต่างๆ การขอรถเข็น (Wheelchair) การขอที่นั่งพิเศษ รวมทั้งผู้โดยสารที่มีสัมภาระขนาดเกินกำหนด กรุณาติดต่อ Check-in Counter
และเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมจากประเทศปลายทาง และเตรียมเอกสารการเดินทาง รวมทั้งเอกสารที่จำเป็นต่างๆ ตามที่ประเทศปลายทางกำหนดมาให้ถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งขอให้ผู้โดยสารพิจารณาเดินทางมายังสนามบินก่อนเวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 65)
Tags: THAI, การบินไทย, สายการบิน, หุ้นไทย