KBANK คาดเงินบาทอ่อนค่าทดสอบ 36.75 ก่อนกลับมาแข็งค่าช่วงสิ้นปี

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่า และอ่อนค่าไปมากกว่าคาด สาเหตุหลักเนื่องจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ปี 37 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในขณะที่ประธานเฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อจัดการกับเงินเฟ้อที่ยังไม่แน่นอนว่าจุดสูงสุดในรอบนี้อยู่ที่ระดับใด ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยและสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าเช่นเดียวกับค่าเงินสกุลภูมิภาค

ห้องค้ากสิกรไทย ประเมินว่าในระยะนี้ เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าทดสอบระดับ 36.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากแรงกดดันการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยและสหรัฐฯ ก่อนที่เงินบาทจะมีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี

โดยในระยะข้างหน้า ประเมินว่าแรงกดดันต่อค่าเงินบาทจะชะลอลง คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในระยะข้างหน้าจะลดแรงกดดันต่อเงินบาท เนื่องจากค่าเงินบาทผันผวนหนักในทิศทางอ่อนค่า ทำให้ ธปท. จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ เพื่อลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อนำเข้าที่ผลักดันให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น และลดแรงกดดันจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เฟดขึ้นดอกเบี้ยถึง 75bps รวมทั้งปี เฟดขึ้นไปแล้วถึง 150bps และท่าทีเฟดยังคงแสดงความมุ่งมั่นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และจะใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวต่อเนื่องตราบเท่าที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้น แม้อาจเป็นการชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคต ทำให้ในการประชุมล่าสุด ธปท.ส่งสัญญาณเตรียมพร้อมสำหรับการกลับไปดำเนินนโยบายแบบปกติมากขึ้น ซึ่งหมายถึงการเตรียมขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ และเริ่มถอนคันเร่งในอนาคต

“ห้องค้าฯ ประเมินว่า ธปท.จะขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยเริ่มที่การประชุมเดือนสิงหาคม และอีกครั้งในการประชุมเดือน

พฤศจิกายน โดยไม่มีการประชุมพิเศษ ภายหลังจากที่ ธปท. ได้ปรับลดการประชุมจากปีละ 8 ครั้ง ลงเหลือเพียง 6 ครั้งในปีนี้” บทวิเคราะห์ระบุ

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยสนับสนุนค่าเงินบาทในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศในครึ่งปีแรกราว 2 ล้านคน สร้างรายได้ 1.14 แสนล้านบาท โดยจำนวนนักท่องในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนคน สนับสนุนคาดการณ์นักท่องเที่ยวของเราที่ 7.0-7.5 ล้านคนในปีนี้ และมีแนวโน้มว่านักท่องเที่ยวอาจแตะระดับ 10 ล้านคนได้ในปีนี้ แม้ไม่รวมนักท่องเที่ยวจากจีน หากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากประเมินว่ามีแรงหนุนอุปสงค์ต่อการท่องเที่ยวที่อั้นไว้ในช่วงโควิด และการฟื้นตัวแบบ Vshaped recovery ประกอบกับการขาดแคลนก๊าซและราคาก๊าซที่แพงขึ้น

สนับสนุนการท่องเที่ยวไทยในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม

“ณ สิ้นปี 65 ห้องค้ากสิกรไทยคาดการณ์ค่าเงินบาทที่ 35.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากแรงกดดันส่วนต่างดอกเบี้ยที่จะลดลง เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขึ้นดอกเบี้ย, ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยสหรัฐฯ ที่จะทำให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี และแรงหนุนการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวของไทย” บทวิเคราะห์ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top