นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายและมาตรการในการป้องกันและแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังประชุมว่า กมธ.ได้มอบหมายให้คณะทำงานจัดทำรายงานสำรวจแบบสอบถามในพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการจัดทำรายงานของ กมธ.โดยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,296 คน พบว่า เห็นด้วยกับการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร 80.67% ส่วนประเภทธุรกิจในสถานบันเทิงแบบครบวงจร อันดับหนึ่ง 63.20% อยากให้เป็นแบบห้างสรรพสินค้าครบวงจร อันดับสอง 39.23% เป็นสปา การผ่อนคลาย การนวดแผนไทย อันดับสาม 38.11% ต้องการให้มีธนาคาร และสถาบันการเงิน ขณะที่อันดับหกเป็นกาสิโนถูกกฎหมาย 36.38%
โฆษก กมธ.ฯ กล่าวว่า พื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร อันดับหนึ่ง 56.13% ได้แก่ พื้นที่ กทม.และอีอีซี ที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 100 กม.จากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา อันดับสอง 54.25% พื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวเมืองหลัก และอันดับสาม 27.67% พื้นที่ชายแดนที่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองถาวร ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเปิดฯ พบว่า 54.49% กังวลปัญหาอาชญากรรม 52.40% กังวลปัญหาหนี้สิน และ 39.71% กังวลปัญหาการถูกครอบงำจากต่างชาติ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 ก.ค.กมธ.จะพิจารณาและลงมติเห็นชอบกับรายงานฉบับสมบูรณ์และนำเสนอต่อประธานสภาในวันที่ 27 ก.ค.65 เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 65)
Tags: กาสิโน, จักรพล ตั้งสุทธิธรรม, บ่อนการพนัน, สถานบันเทิง