บล.พาย (Pi) ประเมินกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) สัปดาห์นี้ 1,565-1,590 จุด โดยปัจจัยหลักที่ต้องจับตา ได้แก่ ปัจจัยในประเทศไทยจะมีการรายงานเงินเฟ้อประจำเดือน มิ.ย.65 โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 7.5%YoY สูงกว่าเดือนก่อนที่ 7.1%YoY และขยายตัว MoM ราว 0.78%
ขณะที่เราตั้งข้อสังเกตว่าการขยายตัวของเงินเฟ้อมีความเป็นไปได้ที่จะต่ำกว่า Consensus ประเมินไว้ เนื่องจากหากพิจารณาราคาน้ำมันดีเซลในประเทศประจำเดือน มิ.ย. พบว่าขยายตัวราว 9.6%MoM แต่ Consensus คาดว่าเงินเฟ้อจะขยายตัวเพียง 0.78%MoM แต่หากเปรียบเทียบกับเดือน พ.ค. ราคาน้ำมันดีเซลขยายตัวเพียง 6.7%MoM แต่เงินเฟ้อในเดือน พ.ค. ขยายตัวสูงถึง 1.4%MoM ดังนั้น หากเงินเฟ้อสูงกว่าตลาดประเมินไว้อาจเป็นปัจจัยกดดันการลงทุน
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คือ รายงานผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) สำหรับเดือน มิ.ย.65 ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ค.นี้ แต่เชื่อว่ามีผลต่อการลงทุนไม่มาก เพราะมองว่าคาดการณ์ดอกเบี้ยของตลาดที่ 0.75% ในสิ้นเดือนนี้จะเพียงพอ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. Bloomberg Consensus คาดที่ 2.75 แสนตำแหน่ง พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 3.6%
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี Dow Jones ปิดบวก 1.05% ภาพรวมไม่ได้มีปัจจัยใหม่ๆ ที่มีนัย เป็นเพียงแรงซื้อเข้ามาหลัง Dow Jones ปรับฐานลงมาก่อนหน้า ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ในเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 53 ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ต่ำกว่านักวิเคราะห์ประเมินที่ 54.6 ขณะเดียวกันมีการรายงานดัชนีใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้างพบว่าติดลบ 0.1%MoM สวนทางกับตลาดประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%MoM
ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 2.4% ตลาดยังคงวิตกกับปัญหาอุปทานขาดแคลน เนื่องจากปัญหาประท้วงในลิเบียกดดันการผลิต ทั้งนี้ หากพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาเริ่มพบว่าเห็นสัญญาณการลดลงชัดเจน ข้อดีคือคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อ แต่ข้อเสียคือมีความเสี่ยงที่นักวิเคราะห์จะปรับลดประมาณการกำไรลง ซึ่งปัจจุบันในตลาดหุ้น Dow Jones ยังมิเห็นการปรับลดประมาณการกำไรแต่อย่างใด รวมถึง SET Index จึงถือเป็นความเสี่ยงที่รออยู่ในช่วงถัดไป
เชิงกลยุทธ์ในสัปดาห์นี้การลงทุนสำหรับ Trading แนะ ค้าปลีก (BJC CPALL) ส่งออก (ASIAN) น้ำมัน (PTTEP) หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะ (CBG SCGP)
ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท) คาดกำลังการผลิตใหม่ในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะขยับตัวสูงขึ้นใน 2H22 จากอุปสงค์ที่ดีขึ้นด้วยแรงหนุนจากพลวัตระดับมหภาคที่เป็นใจ นอกจากนี้ยังเล็งเห็น upside risk ในอนาคตจากอุปสงค์ที่จะไหลเข้ามามากขึ้นหลังจีนเริ่มคลายล็อกดาวน์
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 159.00 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 7.4 พันล้านบาทในโตขึ้น 17% YoY (+4% QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง ส่วนในเชิง QoQ คาดโตขึ้นเล็กน้อยจากรายได้การดำเนินงานที่สูงขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย, เงินเฟ้อ