ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวขึ้น เมื่อเวลา 10.11 น. นำโดย WPH บวก 13.49% หรือ เพิ่มขึ้น 0.58 บาท มาที่ 4.88 บาท มูลค่าซื้อขาย 432.49 ล้านบาท
- SVH บวก 12.86% หรือ เพิ่มขึ้น 54.00 บาท มาที่ 474.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 8,766.56 ล้านบาท
- CHG บวก 1.07% หรือ เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มาที่ 3.78 บาท มูลค่าซื้อขาย 68.24 ล้านบาท
- BH บวก 0.83% หรือ เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มาที่ 181.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 80.03 ล้านบาท
- BDMS บวก 1.00% หรือเพิ่มขึ้น 0.25 บาท มาที่ 25.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 24.99 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ปรับตัวขึ้นมา คาดว่ามาจากมุมมองของนักลงทุนที่เห็นว่าเป็นหุ้นกลุ่มปลอดภัยในช่วงอัตราเงินเฟ้อยังเร่งตัวสูงขึ้น ประกอบกับโมเมนตัมของธุรกิจเฮลธ์แคร์ในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มดูดีขึ้น จากผู้ป่วยในประเทศกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น และยังเสริมด้วยผู้ป่วยต่างชาติที่จะเข้ามาเพิ่มเติมหลังจากมีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังอาจมี Story จากการควบรวมกันหรือร่วมมือทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันด้วย
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 คาดว่าจะออกมาในโทนกลางๆ ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจในไตรมาส 3/65 ซึ่งน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนต่อธุรกิจนี้อีกประเด็นหนึ่ง
ยังคงแนะนำซื้อหุ้น บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) จากมีสัดส่วนผู้ป่ายต่างชาติสูงที่สุดในกลุ่ม คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติโดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ให้ราคาเป้าหมายที่ 185 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 65)
Tags: BDMS, BH, CHG, SVH, WPH, หุ้นโรงพยาบาล, หุ้นไทย