คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนจะสามารถนำมาตรการด้านนโยบายออกมาใช้ได้เหมาะสมกับเวลา เพื่อรับมือความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความเสี่ยงจากวิกฤติยูเครน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการจ้างงานและเสถียรภาพด้านราคา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนกำลังเริ่มฟื้นตัว หลังผ่านพ้นช่วงล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเดือนเม.ย. และต้นเดือนพ.ค. ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่ยังมีปัจจัยที่ขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา การใช้จ่ายที่อ่อนแอของผู้บริโภค และความเสี่ยงที่โควิด-19 จะกลับมาระบาดเพิ่มขึ้น
นายอู่ หง รองเลขาธิการ NDRC ระบุว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการสนับสนุนที่ดำเนินอยู่ พร้อมทั้งปรับปรุงมาตรการด้านนโยบายอื่น ๆ ทั้งนี้ การออกนโยบายช่วยเหลือใหม่นั้นจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสามารถดำเนินการได้ทันท่วงที
“เรามั่นใจเต็มที่ว่าจะเอาชนะความท้าทายทางเศรษฐกิจได้ และเรามีความสามารถที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้ทุกรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ แข็งแกร่ง และยั่งยืน”
นายอู่เสริม
ทั้งนี้ นายอู่ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤติยูเครนนับตั้งแต่เดือนมี.ค. เป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และทำให้เกิดการว่างงานและเงินเฟ้อสูงขึ้น
ด้านจ้าว เฉินซิน รองผู้อำนวยการ NDRC กล่าวว่า จีนจะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นท่าทีที่รัฐบาลจีนเน้นย้ำตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลเรื่องหนี้สิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 65)
Tags: NDRC, จ้าว เฉินซิน, จีน, อู่ หง, เศรษฐกิจจีน