เจฟฟรีย์ ชอตต์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน (PIIE) เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การที่รัสเซียจะยุติการลำเลียงก๊าซผ่านท่อส่งทั้งหมดไปยังยุโรปนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้ พร้อมกับเตือนให้กลุ่มประเทศ G7 เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะใกล้นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของยุโรป
“กลุ่ม G7 จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการชัตดาวน์ท่อส่งก๊าซ ซึ่งจะสามารถทำได้ด้วยการลดการใช้น้ำมัน แม้ว่าขณะนี้ยังพอมีลู่ทางที่จะหาซัพพลายจากแหล่งอื่น ๆ ทั่วโลก แต่การชัตดาวน์ท่อส่งก๊าซทั้งหมดจากรัสเซียจะก่อให้เกิดผลกระทบตามมา” นายชอตต์กล่าว
เขากล่าวว่า “ที่ผ่านมานั้นรัสเซียได้ระงับการส่งก๊าซไปยังเยอรมนีและระงับการลำเลียงก๊าซผ่านทางยูเครน ดังนั้นการชัตดาวน์ท่อส่งก๊าซทั้งหมดไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ดี ผมมองว่าการตัดท่อส่งก๊าซทั้งหมดของรัสเซียนั้นจะส่งผลให้มีการปันส่วนก๊าซในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ และคาดว่าซัพพลายจากรัสเซียจะได้รับการชดเชยบางส่วนจากการนำเข้าก๊าซ LNG เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเพิ่มซัพพลายจากนอร์เวย์และแอลจีเรีย, การเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน และการใช้มาตรการอนุรักษ์พลังงาน”
ทั้งนี้ บริษัทก๊าซพรอมซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่รัฐบาลรัสเซียให้การสนับสนุน ได้ปรับลดการลำเลียงก๊าซไปยังยุโรปแล้วในอัตราส่วนถึง 60% ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เยอรมนี อิตาลี ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ มีแนวโน้มที่จะกลับไปใช้พลังงานจากถ่านหินอีกครั้ง
นายชอตต์กล่าวว่า “ในขณะที่ทั่วโลกยังคงกดดันรัสเซียเพื่อตอบโต้กรณีส่งทหารรุกรานยูเครนนั้น ยุโรปก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นกัน ยิ่งทั่วโลกยังคงเดินหน้าเป็นปรปักษ์กับรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็ยิ่งตอบโต้กลับมา และอาจจะตอบโต้จนถึงขั้นตัดการส่งก๊าซทั้งหมดให้กับยุโรป ผมคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 65)
Tags: PIIE, ท่อส่งก๊าซ, ยุโรป, รัสเซีย, เจฟฟรีย์ ชอตต์