หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ในกรอบไร้ปัจจัยกระตุ้น รอตัวเลข GDP สหรัฐ

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบ หลังปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง 2-3 วันติดต่อกัน เพื่อรอติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐพรุ่งนี้ ว่าจะเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยจริงหรือไม่ และยังไร้ปัจจัยใหม่หนุนดัชนี แนวรับ 1,575 จุด และ แนวต้าน 1,585 จุด

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า มองทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้านี้แกว่งตัวอยู่ในกรอบ หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 2-3 วันติดต่อกัน โดยนักลงทุนรอติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) และ ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ของจีนที่จะออกมาในวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยจริงหรือไม่

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ แนวรับ 1,575 จุด และ แนวต้าน 1,585 จุด

ส่วนบล.ไอร่า คาดตลาดวันนี้ Sideways มองแนวรับที่บริเวณ 1,575/1,565 และแนวต้านที่บริเวณ 1,585/1,590 โดยมองตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ดี แม้ว่าตลาดจะเริ่มปรับลดความกังวลของแนวโน้มการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอ-อ่อนตัวลงบ้างก่อนหน้า โดยล่าสุด CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดปรับลดคาดการณ์ดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีของสหรัฐที่ระดับเพียง 3.50-3.75% จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่สูงกว่าระดับ 4.0% คาดจะช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดในช่วงก่อนหน้า ให้ตลาดรีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น

อย่างไรก็ตามยังมองแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง และมีโอกาสถดถอยในระยะถัดไป รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงของการ Preview ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาด คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของตลาดได้อยู่

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,438.26 จุด ลดลง 62.42 จุด หรือ -0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,900.11 จุด ลดลง 11.63 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,524.55 จุด ลดลง 83.07 จุด หรือ -0.72%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,795.68 จุด ลดลง 75.59 จุด หรือ -0.28%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,144.63 จุด ลดลง 84.89 จุด หรือ -0.38% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,377.68 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือ -0.04%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 มิ.ย.) ที่ระดับ 1,580.20 จุด เพิ่มขึ้น 11.44 จุด, +0.73%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,868.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.(27 มิ.ย.)เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 109.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 มิ.ย.) อยู่ที่ 27.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.39 อ่อนค่าหลังบอนด์ยิลด์สหรัฐพุ่งขึ้น คาดกรอบวันนี้ 35.25 – 35.45

– ธปท.ยันไม่ปรับกรอบเงินเฟ้อ คงที่ 1-3% โจทย์นโยบายการเงิน ต้อง take off อย่างราบรื่น การถอนคันเร่งต้องพอเหมาะ ถูกจังหวะ ไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงจนเกินไป เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมเงินเฟ้อ ยันขึ้นดอกเบี้ยไม่ทำให้เศรษฐกิจสะดุด เล็งงัดมาตรการเป็นแพกเกจช่วยเหลือ กลุ่มเปราะบางเพิ่ม

– โควิดไทยเข้าสู่ระยะหลังการระบาดใหญ่ 1 ก.ค. โรคลดความรุนแรง แต่ยังพบคนป่วย ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ส่วนโอมิครอน “BA.4-BA.5” ยังไม่ชัดเจนแพร่เร็ว-รุนแรง แนะฉีดเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มภูมิฯทุก 4 เดือน เล็งขยายฉีดกลุ่มอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพิ่มฟังก์ชัน “หมอพร้อม” ประเมิน “ภาวะลองโควิด” อาการผิดปกติระดับความรุนแรง ด้าน “หมอยง’ เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิดจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน 10 เท่า ชี้เด็กป่วยเพิ่มขึ้นและกระจายติดครอบครัว คาดพีคสุดเดือน ก.ค.-ก.ย.

– พาณิชย์ออกโรงการันตีสงบข่าวลือ ‘มาม่า-ไวไว’ ยังไม่ปรับขึ้นราคาขายส่ง ระบุเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องขออนุญาตก่อนจึงขยับราคาขายปลีกได้ รับเข้าใจผู้ประกอบการหลังราคาน้ำมันพุ่งดันต้นทุนทะยาน ยันพร้อมพิจารณาปรับราคาสินค้าเป็นรายกรณี หลังพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วนให้ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด

– กพท.ออกประกาศแจ้งสายการบินปรับมาตรการใหม่เข้าประเทศ ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass ฉีดวัคซีนครบ ไม่ต้องตรวจโควิด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ แนะอยู่บนเครื่องบินยังต้องสวมหน้ากากอนามัย เหตุเป็นพื้นที่ปิด

 

*หุ้นเด่นวันนี้

– OSP (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 37.50 บาท จากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลายลงช่วยให้ยอดขายดีขึ้น ทั้งกลุ่ม Energy Drinks และ Functional Drink โดยในงวดไตรมาส 2/65 คาดกำไรดีขึ้น QoQ, YoY จากการออกสินค้า M150 สูตรใหม่ ราคา 12 บาท ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.65 ช่วยให้ GPM สูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทคาดว่าภายใน 1-2 ปี จะมียอดขายสินค้า Premium อย่างน้อย 75% ของเครื่องดื่ม Energy Drinks ทั้งหมด ส่วนการบริหารต้นทุนพลังงานหลักจากก๊าซธรรมชาติและน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น บริษัทมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ light bottle และใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เข้ามาช่วย โดยในปีนี้ตั้งงบลงทุน 1.5 พันล้านบาท ในการลดการใช้พลังงาน และตั้งเป้าลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้ 5 พันล้านบาทภายใน 5-7 ปี

– KCE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 65.50 บาท “กลุ่มอิเล็กทรอนิคเริ่มฟื้น เข้า Theme Bottom Fishing”

ลุ้นราคาหุ้นฟื้น และค่อยๆผ่านช่วงเวลาของความยากลำบากในด้าน Operation และความกังวลของรัสเซีย ในด้านราคาหุ้นจากต้นปี 65 ราคาปรับฐานมาแล้วกว่า -28.7% สะท้อนความเสี่ยงต่างไปค่อนข้างมาก down side เริ่มจำกัด KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 2.97 พัน ลบ. และ 3.38 พัน ลบ. +23%YoY, +14%YoY ตามลำดับ

– TOP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 63 บาท น้ำมันดิบฟื้นตัวแรง, ค่าการกลั่น ณ โรงกลั่นสิงคโปร์พุ่งแตะระดับ 30 เหรียญ/บาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบหลายปี ส่วนปัจจัยลบแม้จะมี Overhang จากข่าวดึงส่วนแบ่งกำไรโรงกลั่นของภาครัฐแต่คาดตัวเลขจะไม่สูงเหมือนที่มีการนำเสนอ มองราคาหุ้นที่ลดลงสะท้อนปัจจัยนี้ไปบ้างแล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top