นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องวัคซีนโควิด-19 กำลังจะหมดอายุ เพราะสั่งเข้าแบบไม่มีแผนและใช้งานไม่ทัน ว่า วัคซีนเป็นเรื่องของความมั่นคงทางด้านสุขภาพของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศที่จะมีวัคซีนเหลือ ไม่ใช่วัคซีนขาด
ส่วนเรื่องของการสั่งจองและซื้อวัคซีนโควิด-19 เข้ามาเพื่อปกป้องประชากรทั่วประเทศและเรื่องหมดอายุนั้น ขอชี้แจงทำความเข้าใจ ว่า วัคซีนโควิด-19 แต่ละชนิดจะต้องมีการสั่งจองล่วงหน้าเป็นปีหรือหลายเดือน เนื่องจากกระบวนการผลิตวัคซีนมีความซับซ้อน และใช้เวลานาน เมื่อผลิตออกมาแล้วจะขอขึ้นทะเบียน อย.เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งกำหนดวันหมดอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผลิต หากภายหลังตรวจสอบคุณภาพและประเมินผลแล้วสามารถที่จะนำมาฉีดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิผล อย.ก็จะอนุมัติให้ขยายอายุวัคซีนเพื่อให้บริการประชาชนได้มากที่สุด
“เป็นเรื่องพื้นฐานความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ การจองวัคซีนต้องให้มีจำนวนเพียงพอต่อการป้องกันโรคและรับมือการระบาด ซึ่งในต่างประเทศก็มีการจองวัคซีนไว้ตามความต้องการสูงสุดสำหรับประชาชนทุกคน ซึ่งต้องมีเข็มกระตุ้นด้วย และมีวัคซีนหมดอายุ เช่น ญี่ปุ่น มีข่าวบริจาคและทำลายวัคซีนโควิดมากกว่า 100 ล้านโดสในหลายเดือนที่ผ่านมา” นพ.รุ่งเรือง กล่าว
โฆษก สธ. กล่าวว่า การบริหารจัดการวัคซีนและการคาดประมาณการฉีดวัคซีนมีการดำเนินการล่วงหน้า จัดหาและจัดส่งวัคซีนไปให้อย่างเพียงพอ โดยวัคซีนเข็มกระตุ้นจากฐานข้อมูลของกระทรวงฯ คาดว่า ยังมีผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการฉีดเข็มกระตุ้นอีกประมาณ 24 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณวัคซีนที่ได้จัดส่งไปให้กับพื้นที่และหน่วยบริการดำเนินการ แต่ช่วงนี้ที่มีการฉีดวัคซีนได้น้อย เนื่องจากสถานการณ์การระบาดคลี่คลายดีขึ้นมาก และประชาชนยังไม่มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น
“การจัดหาวัคซีนไว้เหลือป็นแนวทางการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล และหลักความมั่นคงทางด้านสุขภาพ และตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนเหลืออยู่ที่คลังส่วนกลาง 29 ล้านโดส และคลังส่วนภูมิภาค 13 ล้านโดส การดำเนินการตามนโยบาย คือ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของจึงเป็นที่มาของการเร่งรัดประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้ารับเข็มกระตุ้น โดยจัดส่งวัคซีนไปไว้ที่ รพ.สต. เพื่อให้บริการประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด” นพ.รุ่งเรือง กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 65)
Tags: กระทรวงสาธารณสุข, ฉีดวัคซีนโควิด, รุ่งเรือง กิจผาติ, วัคซีนต้านโควิด-19, วัคซีนเข็มกระตุ้น, สธ.