ผบ.ตร.กำชับสถานบันเทิงอย่าหย่อนมาตรการ หลังศบค.ผ่อนคลายกิจกรรม 1 ก.ค.

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้มีมติผ่อนคลายกิจกรรมและมีมาตรการป้องกันควบคุมโรค พร้อมปรับพื้นที่สีเขียวทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค.65 เป็นต้นไปนั้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล โดยให้ทุกหน่วยในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ สร้างการรับรู้ มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสตามแนวทางของ ศบค. และตามประกาศ คำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ของแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด รวมถึงการออกตรวจสอบ กวดขัน พร้อมให้คำแนะนำ สถานประกอบการ ร้านค้า ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่

โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ เสนอปรับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร จากเดิมที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 46 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 15 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 20 จังหวัด ปรับมาเป็นพื้นที่สีเขียวทุกจังหวัดทั่วประเทศ สามารถมีกิจการกิจกรรมในการผ่อนคลายอย่างเต็มที่ แต่ต้องมาพร้อมมาตรการป้องกันควบคุมโรค ซึ่งมีสาระสำคัญในการผ่อนคลายมาตรการรวมถึงการป้องกันควบคุมโรคในประเทศ 8 มาตรการ ดังนี้

1. พื้นที่สถานการณ์ ให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์เป็นระดับเฝ้าระวัง (สีเขียว) ทั้งประเทศ และยกเลิกการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

2. มาตรการการใส่หน้ากากอนามัย ให้ปรับเป็นข้อแนะนำว่าควรสวมหน้ากาก และให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แออัด สถานที่ปิด หรือมีการอยู่ใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก

3. การบริโภคสุราหรือแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ให้เปิดบริการได้ตามปกติโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง

4. สถานประกอบการประเภทสถานบันเทิง ฯลฯ เปิดให้บริการและให้ผู้รับบริการดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยเปิดให้บริการตามกฎหมายเดิมกำหนด

5. การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ผ่อนคลายให้การดำเนินการเป็นไปตามปกติ

6. การคัดกรองอุณหภูมิ ไม่มีความจำเป็นต้องคัดกรองอุณหภูมิในอาคารสถานที่ (อาจให้มีการคัดกรองอุณหภูมิในสถานที่เสี่ยงหรือพื้นที่ระบาด)

7.การเว้นระยะห่าง แนะนำให้มีการเว้นระยะห่างตามความเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค

8.มาตรการรวมกลุ่ม ให้ตรวจคัดกรอง ATK กรณีเป็นผู้ป่วยสงสัยที่มีอาการทางเดินหายใจ หากมีการรวมกลุ่มมากกว่า 2,000 คน ขอให้แจ้งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในพื้นที่หรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเฝ้าระวังการระบาด

อีกทั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ทุกหน่วยในพื้นที่เกี่ยวข้องประสานงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติในพื้นที่ ออกตรวจสอบสถานประกอบการ แหล่งมั่วสุม หรือสถานที่มีประชาชนแออัดจำนวนมาก หากพบการฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ กำชับตำรวจทุกนายห้ามมีส่วนข้องเกี่ยวกับการกระทำความผิดทุกรูปแบบไม่ว่าจะโดยตรง หรือทางอ้อม หากตรวจสอบพบว่าพื้นที่ใดปล่อยปละละเลย หรือหย่อนยาน จะพิจารณาดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับต่อไปไม่มีข้อยกเว้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top