นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกข้างหลังรีบาวด์ โดยมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้ หากแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจอาจส่งผลให้ตลาดยังไปไหนได้ไม่ไกล ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน ให้แนวรับไว้ที่ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกข้าง หลังรีบาวด์ไปพอสมควร โดยระยะสั้นอาจจะมี Sentiment บวกไปอีกเล็กน้อย จากตลาดหุ้นสหรัฐที่เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นแรง แต่น่าจะเป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียและยุโรปที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ วันนี้ไม่น่าจะมีแรงหนุนมากนัก จึงเป็นลักษณะแกว่งไซด์เวย์ ถึงไซด์เวย์อัพอ่อนๆ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและด้านลบสลับกัน
ทั้งนี้นักลงทุนยังจับตาดูนายเจอโรม พาวเวล ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 22 มิ.ย.นี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย. โดยให้ดูว่าจะมีการแสดงความกังวลต่อเรื่องดังกล่าวออกมาหรือไม่ หากมีการแสดงความกังวลมองว่าตลาดน่าจะยังไปไหนได้ไม่ไกล
ให้แนวรับไว้ที่ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,530.25 จุด พุ่งขึ้น 641.47 จุด หรือ +2.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,764.79 จุด เพิ่มขึ้น 89.95 จุด หรือ +2.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,069.30 จุด พุ่งขึ้น 270.95 จุด หรือ + 2.51%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,441.72 จุด เพิ่มขึ้น 195.41 จุด หรือ +0.74%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,469.74 จุด ลดลง 89.85 จุด หรือ -0.42% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,309.12 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด หรือ +0.07%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 มิ.ย.) ที่ระดับ 1,574.52 จุด เพิ่มขึ้น 15.31 จุด +0.98%
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,655.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.(21 มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 110.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 มิ.ย.) อยู่ที่ 30.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.42 อ่อนค่าจากวานนี้ ให้กรอบ 35.25-35.45 จับตาถ้อยแถลงปธ.เฟดคืนนี้
- “โฮปเวลล์’ เตรียมลุยฟ้องอาญา ภาครัฐ ปมสร้างความเสียหายแก่บริษัท ยันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย ร.ฟ.ท.อนุมัติเมื่อ ปี 2533 ชี้มูลหนี้และดอกเบี้ยปัจจุบันเดินหน้ากว่า 2.7 หมื่นล้านบาท “คมนาคม” ชี้อยู่ช่วงงดบังคับคดี ยังไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายและดอกเบี้ย
- “การบินไทย” จ่อขายสำนักงานต่างประเทศมูลค่า 2 พันล้าน เหตุเน้นขายตั๋วโดยสารผ่านออนไลน์ มากขึ้น คาดผลดำเนินงานปี 65 ขาดทุน ลดลงจากปีก่อน เหตุธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ หนุนกระแสเงินสดเพิ่ม อาจทำให้กู้เงินไม่ถึง 2.5 หมื่นล้าน เชื่อออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเร็วกว่ากำหนด
- รมต.คลังหารือแบงก์ชาติดูแลบาทอ่อนยวบช่วงปัจจัยนอกรุมเร้า พร้อมเปิดทางให้ขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อหากจำเป็น แต่ฝากถึงแบงก์พาณิชย์อย่าขึ้นดอกเบี้ยแรง ห่วงกระทบต้นทุนเอกชน-การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- นายกฯ สั่ง สมช.เจ้าภาพทำแผนรับมือวิกฤติ “พลังงาน-อาหาร” ลากยาว ย้ำต้องทำแผนเผชิญเหตุ ห่วงผลกระทบการคลังระยะยาว “สุพัฒนพงษ์” เร่งเจรจาโรงกลั่นให้ได้ข้อสรุปใน 1 สัปดาห์ ปตท.พร้อมให้ความร่วมมือในตัวเลขที่เหมาะสม ครม.ต่อมาตรการลดค่าครองชีพ 3 เดือน ช่วยค่าก๊าซหุงต้ม เอ็นจีวี ผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ
หุ้นเด่นวันนี้
- GFPT (เมย์แบงก์ฯ) ซื้อ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.9 บาท คาดกำไรยังโดดเด่นในช่วงที่เหลือของปีนี้จากการที่ราคาไก่เนื้อและราคาชิ้นส่วนไก่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง รวมถึงการส่งออกที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง คาดหนุนกำไรปีนี้จะเติบโตถึง +761%YoY สู่ 1.54 พันล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มสู่ระดับ 14.3
- BBIK (เคทีบีเอส) ซื้อ เป้าเชิงกลยุทธ์ 74.00 บาท ประเมินราคาหุ้นจะเริ่มฟื้นตัว หุ้น Growth Style กลับมาอยู่ในกระแส แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/65 ไม่น้อยกว่าไตรมาส 1/65 (All time High) บ. รับงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 458 ล้านบาท รับรู้ภายในปีนี้ราว 50-60% ด้าน บ. JV กับ OR (ORBIT) ซึ่งมีโอกาสได้งานใหม่จากกลุ่ม PTT ส่วน BBIK พร้อม Recruit พนักงานเพิ่มจากไทยและอินเดีย มีเป้า ณ สิ้นปี 65 ที่ 300 คน เพิ่มขีดความสามารถรับงาน ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 113 ล้านบาท และ 169 ล้านบาท +70%YoY, +50%YoY ตามลำดับ
- ASIAN (กรุงศรี) ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 23 บาท ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าล่าสุดแตะระดับ 35.40 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 5 ปี แนวโน้มงบไตรมาส 2/65 ยังดีต่อเนื่อง ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มิ.ย. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย