ผบ.ตร. สั่งบังคับใช้กฎหมายคุม หลังรัฐบาลประกาศกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) มีความห่วงใยประชาชน ต่อกรณี “ปลดล็อกกัญชา” ปลดพืชกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ใช้กัญชาโดยขาดความระมัดระวัง ไม่คำนึงถึงผลข้างเคียง ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของตนเอง และบางรายนำไปใช้ปรุงอาหาร ใช้เพื่อการค้า ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน และกลุ่มเสี่ยง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุม ป้องกัน ภัยอันตรายที่เกิดจากการใช้กัญชาอย่างไม่เหมาะสม

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ล่าสุดรัฐบาลได้ควบคุมการใช้กัญชา โดยพิจารณาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 โดยให้กัญชา หรือสารสกัดจากกัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นสมุนไพรควบคุม, อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ขึ้นไปสามารถครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา ขนย้าย จำหน่ายกัญชาได้ แต่ห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร ห้ามจำหน่ายแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร, อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาให้กับผู้ป่วยของตน และอนุญาตให้ผู้ป่วยข้างต้น สามารถครอบครอง ขนย้าย ดูแล เก็บรักษา ใช้ประโยชน์ในปริมาณที่จ่ายให้สำหรับการใช้ประโยชน์เป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป หากผู้ใดละเมิดประกาศนี้ มีโทษปรับ จำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565 มีผลแล้ว ดังนั้นการกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top