นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (PTTGC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดปริมาณการขายครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากไม่มีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่แล้ว จะมีเพียงการปิดซ่อมบำรุงโรงโอเลฟินส์หน่วยที่ 2/1, 2/2, 2/3 รวมถึงการปิดซ่อมบำรุงโรง HDPE และโรงกลั่น ขณะที่แนวโน้มของอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ยังทรงตัวในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม PTTGC คาดว่าปริมาณการขายปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย หรือเติบโตเฉลี่ย 4% ต่อปี
สำหรับความคืบหน้าโครงการผลิตพลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง ของบริษัท Kuraray GC Advanced Material (KGC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Kuraray, Sumitomo ของญี่ปุ่น กับ PTTGC อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ผลิต High Heat Resistant Polyamide-9T (PA-9T) จำนวน 13,000 ตันต่อปี และ Hydrogenated Styrenic Block Copolymer (HSBC) จำนวน 16,000 ตันต่อปี เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอีเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สายธุรกิจ High Value Business : HVB ซึ่งเป็นโครงการลงทุนในพื้นที่ EEC
โครงการ Olefins 2 Modification (OMP) เพิ่มความยืดหยุ่นของวัตถุดิบ (Feedstock) โดยจะได้โพรพิลีนเพิ่มจำนวน 63,000 ตันต่อปี คาดว่าเริ่มเดินเครื่องได้ในไตรมาส 1/66
การปรับโครงสร้างธุรกิจ PVC ของบมจ.วีนิไทย (VNT) และ AGC Thailand บริษัทฯ ได้เสร็จสิ้นการทำคำเสนอซื้อหุ้น VNT (จำนวน 151,149,415 หุ้น ที่ราคา 39 บาทต่อหุ้น) และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีคำสั่งเพิกถอนหุ้นสามัญของ VNT จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.65 เป็นต้นไป จากสัดส่วนการถือหุ้นเดิม 24.98% และปัจจุบันจะมีสัดส่วนในการถือหุ้น VNT 37.82% ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการปรับโครงสร้างและจัดตั้งบริษัทใหม่ จุดประสงค์เพื่อขยายตลาด PVC ไปสู่ภูมิภาค CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนามและไทย) คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/65
โครงการพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (Recycle Plant) ของบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO) ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลประเภท rPET และ rHDPE กำลังการผลิต 45,000 ตันต่อปี แบ่งเป็นกำลังการผลิต rPET 30,000 ตันต่อปี และ rHPDE 15,000 ตันต่อปี คาดว่าผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 3/65
ส่วนการลงทุนใน allnex บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของ EBITDA ของ allnex ที่ 1.5 เท่า ภายใน 5 ปี หรือราว 600 ล้านยูโร จากปัจจุบันอยู่ที่ 400 ล้านยูโร โดยคาด EBITDA ของธุรกิจเคมีภัณฑ์คุณภาพสูงจะเติบโตมาที่ระดับ 50% ในปี 73 จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% เนื่องจากบริษัทจะขยายฐานธุรกิจเคมีภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีความหลากหลายอย่างต่อเนื่องที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์
นายคงกระพัน กล่าวว่า ประเด็นที่นักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์ของหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ทางภาครัฐจะขอความร่วมมือในการปรับลดค่าการกลั่นและจะกระทบต่อกำไรของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นนั้น บริษัทฯ ยืนยันว่า PTTGC เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากโรงกลั่นต่ำกว่า 10% และธุรกิจโรงกลั่นเป็นการกลั่นเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบใช้ในการผลิตในธุรกิจปิโตรเคมี และการขายน้ำมันที่ได้จากการกลั่นนั้นเพื่อเป็นการจำหน่ายเพียงส่วนน้อย
ด้านความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กที่สหรัฐ (US Petrochemical Complex) บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและการหาพันธมิตรเพื่อเข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งเนื่องด้วยบรรยากาศปัจจุบัน ทั้งสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน, เงินเฟ้อ และเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้บริษัทฯ ยังไม่ได้ตัดสินใจเร็วๆ นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 65)
Tags: PTTGC, คงกระพัน อินทรแจ้ง, พีทีที โกลบอล เคมิคอล, หุ้นไทย