นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 65 ยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย 5-10% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่กลับมาดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย ประกอบกับจำนวนรถของบริษัทที่มารองรับความต้องการใช้จากลูกค้าต่างๆได้อย่างเพียงพอ บริษัทจึงสามารถคว้าโอกาสในการหารายได้เข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง
จากกรณีที่ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ และภาครัฐมีแนวโน้มจะขยายเพดานราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นไปที่ 38 บาท/ลิตร จากเดิมที่ 35 บาท/ลิตร เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งของบริษัทบ้างในช่วงปลายไตรมาส 2/65 และในช่วงต้นของครึ่งปีหลังนี้ หากทิศทางราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูงและยังมีการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยที่บริษัทมีความกังวลอยู่บ้าง แต่บริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าขอปรับเพิ่มอัตราให้บริการรถขนส่งในสัญญาข หรือการปรับอัตราค่าขนส่งให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันทุกๆ 15 วัน เพื่อบริหารจัดการด้านต้นทุนให้ดีที่สุด และรักษาความสามารถในการทำกำไรไม่ให้ต่ำกว่าปีก่อน
แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นเข้ามา แต่ปัจจุบันปริมาณความต้องการใช้รถบรรทุกขนส่งจากลูกค้ากลับมาเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 2/65 เริ่มเห็นการกลับมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลดลงน้อยลงไปมาก และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ ผู้ประกอบการจึงกลับมาดำเนินธุรกิจได้เต็มที่ โดยเฉพาะในกลุ่มก่อสร้าง ส่งผลให้อัตราการใช้รถบรรทุกขนส่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/65 ค่อนข้างมาก และคาดว่าจะเห็นปริมาณเพิ่มขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มจำนวนรถบรรทุกขนส่งเข้ามารองรับการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนเพิ่มจำนวนรถอีก 80 คัน ส่วนหนึ่งที่บริษัทลงทุนซื้อเอง และอีกส่วนหนึ่งจะร่วมกับพันธมิตรในเครือข่าย โดยเฉพาะในกลุ่มของเจ้าของรถที่ต้องการนำรถมาวิ่งขนส่ง ทำให้บริษัทจะมีจำนวนรถเข้ามารองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนรถรวมอยู่ที่ 649 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 464 คัน รถเทรลเลอร์ 72 คัน รถหางพ่วง 105 คัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 65)
Tags: MENA, มีนาทรานสปอร์ต, สุวรรณา ขจรวุฒิเดช, หุ้นไทย