ชาวมะกันบุกประท้วงหน้าสนง.ใหญ่เฟด โวยขึ้นดอกเบี้ยกระทบค่าครองชีพ

ชาวอเมริกันจำนวนมากได้มารวมตัวประท้วงที่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในกรุงวอชิงตัน ขณะที่คณะกรรมการเฟดกำลังประชุมนโยบายการเงินและมีกำหนดแถลงมติการประชุมในวันนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้เฟดพิจารณาถึงผลกระทบของการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มีต่อต้นทุนค่าครองชีพของประชาชน

กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสวมเสื้อยืดสีเขียวและประกาศตนเองว่าเป็น “กลุ่มผู้ปกป้องนโยบายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ (Full-Employment Defenders)” ได้ร้องตะโกนและโบกป้ายที่เขียนตัวหนังสือสีแดงว่า “We are the economy” ที่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟด ในขณะที่คณะกรรมการเฟดยังประชุมกันอยู่ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างก็คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี

ทั้งนี้ ผู้ประท้วงกล่าวว่า ขณะนี้ค่าจ้างปรับตัวสูงขึ้นและตลาดแรงงานของสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งชาวอเมริกันควรจะได้ประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้ แต่การที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ต้นทุนการดำรงชีวิตพุ่งขึ้นและทำให้ประชาชนสูญเสียประโยชน์ดังกล่าว นอกจากนี้ ประชาชนที่มีความเสี่ยงที่จะตกงานในช่วงที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น มักจะเป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่ได้ประโยชน์เมื่อเศรษฐกิจกำลังเป็นไปทิศทางที่ดี

เบนจามิน ดัลชิน หัวหน้ากลุ่ม “Fed Up Campaign at the Center for Popular Democracy” ซึ่งเป็นผู้จัดการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้กล่าวว่า ในขณะที่การสร้างเสถียรภาพด้านราคาเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของเฟด การจ้างงานเต็มอย่างเต็มศักยภาพก็มีความสำคัญเช่นกัน

ที่ผ่านมานั้น เฟดตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายทั้งในการสร้างเสถียรภาพด้านราคาและการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ อย่างไรก็ดี การที่อัตราว่างงานของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่เฟดหันไปมุ่งเน้นการควบคุมเงินเฟ้อซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top