นักกวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคและทั่วโลก ถูกกดดันจากเฟดอาจใช้ยาแรงขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเหนือ 3.3% และค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อภาวะการลงทุน ให้แนวรับไว้ที่ 1,570-1,580 จุด และแนวต้าน 1,620 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยถูกกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจใช้ยาแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 0.5% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง พุ่งเหนือ 3.3% และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ทำให้กดดันต่อภาวะการลงทุน
นายอภิชาติ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้เข้าสู่ตลาดหมี (Bear Market) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้แนวรับไว้ที่ 1,570-1,580 จุด และแนวต้าน 1,620 จุด
วันนี้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีการออกมาตรการเกี่ยวกับสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันและการคุมค่าการกลั่น ส่วนต่างประเทศ ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,516.74 จุด ร่วงลง 876.05 จุด หรือ -2.79% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,749.63 จุด ลดลง 151.23 จุด หรือ -3.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,809.23 จุด ดิ่งลง 530.80 จุด หรือ -4.68%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,555.75 จุด ร่วงลง 431.69 จุด หรือ -1.60%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,783.54 จุด ร่วงลง 284.04 จุด หรือ -1.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,224.21 จุด ลดลง 31.34 จุด หรือ -0.96%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 มิ.ย.) ที่ระดับ 1,600.06 จุด ลดลง 32.56 จุด, -1.99%
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,703.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.(13 มิ.ย.)เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 120.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 มิ.ย.) อยู่ที่ 22.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.96 อ่อนค่าต่อเนื่อง คาดมีโอกาสทดสอบ 35.00 กังวลเฟดขึ้นดบ.แรง
– “สุพัฒนพงษ์” ส่งกฤษฎีกา ตีความใช้ช่องกฎหมายเก็บเงินค่าการกลั่นโรงแยกก๊าซ เข้ากองทุนเสริมสภาพคล่อง อุ้มน้ำมันบางประเภท “พลังงาน” เล็งขยับเพดานดีเซลเป็น 38 บาท หลังกองทุนติดลบเกือบ 1 แสนล้าน เคาะดีเซลวันนี้ 35 บาท “สนธิรัตน์-กรณ์” จี้ลดค่าการกลั่น
– ผู้ว่าแบงก์ชาติส่งสัญญาณชัดเจน “ถึงเวลาปรับขึ้นดอกเบี้ย” สู้เงินเฟ้อ แย้มแผน “ทยอยขยับ” สกัดเศรษฐกิจช็อก “อาคม” มั่นใจไทยไม่เกิด Stagflation เหตุยังมีกำลังซื้อ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเอกชนแห่ออกหุ้นกู้ปีนี้ 1.2 ล้านล้าน ล็อกต้นทุนก่อนดอกเบี้ยขึ้น
– “บีโอไอ” เร่งนโยบายส่งเสริมลงทุนรถอีวีเพิ่มสิทธิประโยชน์ผลิตแบตเตอรี่ ไฟเขียวลงทุนโครงการยักษ์รวม 2 แสนล้าน หนุน “ฮอริษอนพลัส” พันธมิตร ปตท.ผุดโรงงานอีวี 3.6 หมื่นล้าน คาดระยะแรก ผลิตอีวีป้อนตลาด 5 หมื่นคัน ต้นปี 67
– “อาคม” เผย กระทรวงคลัง เตรียมเสนอครม.อนุมัติเก็บภาษีขายหุ้นเร็วๆ นี้ เพื่อออกเป็นพระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ ขณะที่ กฎหมายจะให้เวลา 90 วัน เพื่อให้โบรกเกอร์จัดทำระบบนำส่งภาษีให้กับกรมสรรพากรฅ
– “ชลน่าน” เผยฝ่ายค้านร่างญัตติซักฟอกแล้ว พร้อมยื่น ปธ.สภา 15 มิ.ย.นี้ ขอเวลาไม่น้อยกว่า 4 วัน “สุทิน” โวซักฟอกครั้งสุดท้ายน็อก รมต.คาสภาให้ไปตายในสนามเลือกตั้ง “ก้าวไกล” จ้องเน้น “3 ป.” หนักสุด หวั่น รบ.บีบลดวันอภิปราย “บิ๊กตู่” ยันสัมพันธ์ 3 ป.ทุกอย่างเหมือนเดิมทั้งวันนี้และวันหน้า
*หุ้นเด่นวันนี้
– STP (โกลเบล็ก) ราคาเหมาะสม 24.25 บาท บมจ. สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (STP) เข้าเทรดวันแรก IPO จานวน 25.4 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.4% ของหุ้นทั้งหมด Par 1 บาท เสนอขายหุ้นละ 18 บาท (คิดเป็น P/E ที่ 11.3x) คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 457 ล้านบาท วัตถุประสงค์ใช้ในการขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักร และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ประกอบธุรกิจผลิตกล่อง 2 ชนิด 1) กล่องกระดาษออฟเซทแบบประกบฟูก และ 2) กระดาษออฟเซทแบบไม่ประกบฟูก เพื่อบรรจุอาหารทะเลแปรรูป และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีสัดส่วนรายได้จากผู้ผลิตอาหารราว 94% ทั้งนี้บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิปี 2561-2564 อยู่ที่ 369-561 ลบ. และ 54-124 ลบ. ตามลาดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR ตลอด 4 ปีที่ 11% และ 23% ต่อปีตามลำดับ คาดรายได้และกำไรปี 2565 อยู่ที่ 617 ลบ. และ 134 ลบ. เติบโต 10%YoY และ 8%YoY ตามลำดับ
– EA (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 94.00 บาท คาดนักลงทุนเก็งกลุ่ม EV รับสถานการณ์น้ำมันแพง คาด ขสมก. เร่งดำเดินการโครงการรถบัสไฟฟ้า เพื่อทดแทนการใช้ยานยนต์สันดาบ ในสถานการณ์น้ำมันแพง โดยราคา BRT ปรับตัวขึ้นกว่า +57%YTD ในปี 65 BOI หนุนการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ EA รับประโยชน์เต็มที่จากการขยายกำลังการผลิตโรงงานแบตเตอรี่ในปี 65 มีเป้า ณ สิ้นปีที่ 2GWh Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 เฉลี่ยที่ 8.9 พัน ลบ. และ 9.7 พัน ลบ. +46%YoY, +9%YoY ตามลำดับ
– TIPH (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 77.50 บาท คาดว่าแนวโน้มราคาหุ้นจะยังแข็งกว่าตลาด แม้ว่าวันนี้จะขึ้น XD 1.30 บาท/หุ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากทิศทาง Bond Yield ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มประกัน จุดเด่นเป็นรายใหญ่ในธุรกิจประกันวินาศภัยมีฐานลูกค้าภาครัฐหนุน หลังปรับโครงสร้างเกิดความคล่องตัว เดินหน้าปลดล็อก บ.ลูกเอาเข้าตลาดฯ ส่วนกำไรปี 65 โตราว 10%YoY ตามเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้นและการเคลมประกันที่เกี่ยวกับ COVID ลดลง แนวโน้มกำไร 2Q65 และช่วงที่เหลือมีโมเมนตัมการเติบโต QoQ ต่อเนื่อง
– ASIAN (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 23 บาท ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าล่าสุดแตะระดับ 34.9 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 5 ปี แนวโน้มงบไตรมาส 2/65 ยังดีต่อเนื่อง ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มิ.ย. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย