เครือสหพัฒน์ คาดยอดขายรวมปี 65 ดีขึ้น จ่อขอปรับราคาสินค้าตามต้นทุนพุ่ง

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันยอมรับว่าราคาต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะราคาข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม ที่ราคาพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท คือ มาม่า อย่างมาก ซึ่งข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม ถือเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผล์ตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และบริษัทแบกรับภาระต้นทุนดังกล่าวมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมภายใต้การกำกับของกระทรวงพาณิชย์

โดยที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุญาตการปรับขึ้นราคาขายสินค้าบางรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น โดยเริ่มจากมาม่า ที่จะมีการขออนุญาตการปรับเพิ่มราคาขายขึ้น เพราะบริษัทได้มีการแบกรับภาระต้นทุนมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว และในต่างประเทศราคาขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ปรับเพิ่มขึ้นไปตามต้นทุนวัตถุดิบแล้วเช่นเดียวกัน ส่วนสินค้าถัดไปคาดว่าจะเป็นผงซักฟอกที่จะต้องมีการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนสินค้าอื่นๆจะต้องพิจารณาความเหมาะสมในเรื่องต้นทุนต่อเนื่อง

“เราต้องเริ่มทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าบางอย่างให้เป็นไปตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้นราคาวัตถุดิบหลังสงครามรัสเซียยูเครนก็เพิ่มสูงมาก เราจึงเริ่มคุยในการขอขึ้นราคากับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตอนนี้ก็มีการคุยอยู่ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นได้ตอนไหน แต่เราก็ยังช่วยพยุงราคาสินค้าไม่ให้กระทบประชาชนได้ในระยะหนึ่ง” นายบุญสิทธิ กล่าว

จากแนวโน้มราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นบริษัทมองว่าอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เข้ามาช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน คือ การปรับขึ้นค่าแรง ซึ่งถือเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน หลังจากค่าครองชีพเพิ่มขึ้นไปแล้ว จากราคาขายสินค้าขึ้นนำไปก่อน ทำให้ประชาชนยังมีความสามารถในการซื้อที่มากขึ้น และเกิดการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ที่เริ่มฟื้นตัวหลังการแพร่รบาดโควิด-19 คลี่คลายลงไปมากแล้ว

ด้านภาพรวมของเครือสหพัฒน์ในปี 65 มองว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงปี 63 และปี 64 แต่ยังไม่กลับไปในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวของยอดขายค่อยๆเพิ่มกลับไปอีก 1-2 ปีจากนี้ เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลับมา หลังโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้เริ่มกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศ ประชาชนกลับมาทำงาน เริ่มมีรายได้เข้ามามากขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่อาจจะมีผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น สวนทางกับรายได้ที่ยังไม่เพิ่มขึ้นตามค่าครองชีพ ทำให้กำลังซื้อยังค่อนข้างถูกจำกัด

อย่างไรก็ตามหากมองในภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจประเทศไทยสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค หลังจากโควิด-19 สิ้นสุดลงไป เพราะประเทศไทยเป็นหนึ่งไนประเทศที่สามารถปรับตัวได้เร็ว และได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่ดีมาอย่างเนื่อง จากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีการเติบโตได้ รวมถึงภาคธุรกิจไทยมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูง ทำให้เป็นปัจจัยที่ขับเคลื่องเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังโควิด-19

ด้านแผนการลงทุนของเครือสหพัฒน์ในปี 65 ยังคงต้องติดตามสถานกานณ์ของปัจจัยต่างๆให้ชัดเจนก่อน โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ทำให้การลงทุนใหม่ๆอาจจะยังไม่เร่งรีบมาก หรือหากมีโอกาสที่ดีในการลงทุนใหม่ๆเข้ามา แต่ละธุรกิจในเครือสหพัฒน์สามารถตัดสินใจลงทุนได้ตามความเหมาะสม ซึ่งไม่ไดิเป็นการปิดกั้นโอกาสในการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Health & Wellness ที่คนให้ความสำคัญมากขึ้นหลังเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเครือสหพัฒน์เห็นถึงโอกาสในการต่อยอดเข้าไปในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว

นอกจากนี้ในแง่ของบุคคลากรที่เข้ามาบริหารงานในเครือสหพัฒน์ จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นผู้นำมากขึ้น เพื่อนำแนวความคิดในการทำธุรกิจแบบใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ทำให้สร้างโอกาสใหม่ในธุรกิจ สร้างความหลากหลาย และก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผลักดันการเติบโตได้มากขึ้นและเติบโตอย่างยั่งยืน

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล (ICC) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่า หลังจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้งานสหกรุ๊ปแฟร์ที่เคยจัดอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีไม่สามารถจัดแบบ On Site ได้ถึง 2 ปี ในปีนี้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงเป็นโอกาสอันดีที่เครือสหพัฒน์จะได้นำงานสหกรุ๊ปแฟร์กลับมาจัดให้ยิ่งใหญ่ในรูปแบบ On Site เช่นเดิม และยังคงจัดในรูปแบบ Online ควบคู่กัน

“ตอนนี้ค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้นมาก สินค้าหลายรายการปรับราคาขึ้นไปแล้ว และยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่เตรียมขึ้นราคา เครือสหพัฒน์จึงได้จัดงาน สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26 ในคอนเซ็ปต์ ปลดล็อก ช้อปสวนกระแส เพื่อปลดล็อกค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยนำสินค้าของกินของใช้มาให้ช้อปสวนกระแสในราคาเบาๆ พร้อมโปรโมชันที่พิเศษกว่าทุกปี เพื่อต้อนรับการกลับมาจัดอย่างเต็มรูปแบบของงานสหกรุ๊ปแฟร์” นายธรรมรัตน์ กล่าว

ในส่วนของงาน On Site จะจัดขึ้นที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา บนพื้นที่กว่า 20,900 ตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00–22.00 น. โดย ฮอลล์ 100 เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้านวัตกรรม ส่วน ฮอลล์ 98-99 จะมีสินค้าแบรนด์ดังราคาพิเศษมาให้เลือกซื้อกว่า 1,000 คูหา กว่า 100 บริษัท ประกอบด้วยอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องหนัง รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องกีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า

นอกจากนี้ผู้ร่วมงานยังจะได้สัมผัสประสบการณ์ Metaverse จากบริษัทในเครือสหพัฒน์ และพบกับโซนสินค้าญี่ปุ่นที่ยกทัพแบรนด์ดังอย่าง ไดโซะ ดองกิ ลอว์สัน วาเซดะ และบุงกะ มาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า โซนสินค้าเพื่อสุขภาพจากกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness ที่มานำเสนอสินค้าในคอนเซ็ปต์ สุขภาพดี 24 ชั่วโมง รวมทั้งสินค้าภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) และการจำหน่ายสินค้าแบบ B2B โดยมี KERRY EXPRESS ผู้นำธุรกิจด้านการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย มาให้บริการส่งของสำหรับผู้ซื้อสินค้าในงานพร้อมมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 50% และยังมีกิจกรรมพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของงานสหกรุ๊ปแฟร์อีกมากมาย อาทิ แฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ต การประกวด การสัมมนา การเซ็นสัญญาร่วมทุน การรับสมัครงาน เป็นต้น

ในส่วนของงาน Online ได้เปิดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดังอย่าง LAZADA, SHOPEE, JD CENTRAL รวมถึงแพลตฟอร์มของเครือสหพัฒน์ทั้ง SAHAGROUPONLINE, SHOP CHANNEL, IDF ONLINE, ICC SHOPPING, SAHAPAT DELIVERY และ LION SHOP ONLINE นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ ภายในเครือสหพัฒน์ ที่มีช่องทางการขายออนไลน์ของตัวเองก็พร้อมใจกันเปิดให้ช้อปปิ้งสินค้าราคาพิเศษด้วย โดยมีสินค้าให้เลือกซื้อทั้ง แฟชั่น ชุดชั้นใน ความงาม ของใช้แม่และเด็ก ของใช้ในครัวเรือน อาหารและเครื่องดื่ม บริการ/สื่อการเรียนรู้ สุขภาพ และอสังหาริมทรัพย์ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา พร้อมโปรโมชัน 30 วัน 30 โปร และแจกทองสำหรับผู้ที่มียอดซื้อสูงสุด ซึ่งผู้สนใจสามารถดูรายชื่อแบรนด์ที่เปิดให้ช้อปออนไลน์และโปรโมชันได้ที่ www.sahagroupfair.com และในเว็บนี้ยังมีกิจกรรมตลอดงาน อาทิ การไลฟ์สด และ Flash Sale

“สหกรุ๊ปแฟร์ว่างเว้นจากการจัดงานแบบ On Site ถึง 2 ปี เชื่อว่าหลายคนคิดถึง ต้องการไปเลือก ไปลอง ไปสัมผัสสินค้า ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานที่ทุกคนคุ้นเคย บรรยากาศทั้งหมดนี้กำลังจะกลับมา เราเชื่อว่างานปีนี้จะคึกคักมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโซนจำหน่ายสินค้า ซึ่งเรายืนยันที่จะจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับทุกคน” นายธรรมรัตน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top