นายแซค แพนเดิล นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มของสกุลเงินเยน แม้ว่าเงินเยนอาจจะร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันข้างหน้าก็ตาม
นายแพนเดิลกล่าวว่า มีสองปัจจัยที่จะทำให้เงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้แก่ การที่เศรษฐกิจสหรัฐมีทิศทางชะลอตัวลง หรือการที่ธนาคารกลางปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินหรือเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา โดยปัจจัยหลังนั้นจะเกิดจากการที่อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในระดับสูง และจากการเปิดประเทศของญี่ปุ่น
“เรามองเห็นโอกาสมากขึ้นที่ญี่ปุ่นจะปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งรวมถึงการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา หรือปรับนโยบายการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield-curve control) และเราคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐอาจส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงราว 15% – 20% เมื่อเทียบกับเงินเยน”
นายแพนเดิลกล่าว
ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เดินหน้าควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนภายใต้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการใช้มาตรการที่สวนทางกันเช่นนี้ทำให้เงินเยนทรุดตัวลง และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ นายแพนเดิลคาดว่า ในระยะใกล้นี้ ความเคลื่อนไหวของเงินเยนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยกระตุ้นหลายประการ ซึ่งรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะมีการรายงานในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการประชุมของเฟดและ BOJ ในสัปดาห์หน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 65)
Tags: ค่าเงินเยน, แซค แพนเดิล, โกลด์แมน แซคส์