สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัวลง 15% ในปีนี้ และหดตัวลง 3% ในปีหน้า เนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกบังคับใช้กับรัสเซีย รวมทั้งการที่บริษัทต่างชาติพากันถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย, ปัญหาบุคลากรคุณภาพแห่ออกนอกประเทศ และการส่งออกทรุดตัวลง โดยจะลบล้างการเติบโตตลอด 15 ปีของรัสเซียจนหมดสิ้น
IIF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรัสเซียหลังจากที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดย IIF คาดว่า รัสเซียและยูเครนจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง รวมทั้งคาดว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้นและรุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
เอลินา ไรบาโควา รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IIF กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพุธ (8 มิ.ย.) ว่า “มาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกบังคับใช้หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนนั้น ได้ส่งผลให้การลงทุนตลอดระยะเวลา 30 ปีในรัสเซียล่มสลายลงอย่างเต็มรูปแบบ และยังลบล้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่รัสเซียทำไว้ในช่วง 15 ปีจนหมดสิ้น”
ไรบาโควากล่าวว่า ในขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียชะลอตัวลงอย่างรุนแรงและอำนาจการใช้จ่ายของประชาชนรัสเซียถดถอยลงนั้น ราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งขึ้นได้ส่งผลให้รัสเซียมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ไรบาโควากล่าวว่า ผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรจะรุนแรงมากขึ้นอีก หากยุโรปตัดสินใจลดการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียลงอย่างมาก แม้การดำเนินการดังกล่าวอาจจะใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีก็ตาม
ทั้งนี้ IIF คาดการณ์ว่า การสะสมทุนถาวรเบื้องต้น (Gross Fixed Capital Formation: GFCF) ของรัสเซียจะทรุดตัวลง 25% ในปี 2565 ขณะที่การนำเข้าจะลดลง 28% และการส่งออกจะลดลง 25%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 65)
Tags: IIF, สถาบันการเงินระหว่างประเทศ, เศรษฐกิจรัสเซีย