ดรากอน แคปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการลงทุนในเวียดนามเปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเวียดนามยังคงมีมูลค่าต่ำ ขณะที่เศรษฐกิจเวียดนามมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ซึ่งนับเวลาที่ดีที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
นับจนถึงวันจันทร์ที่ 6 มิ.ย. ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามร่วงลงเกือบ 14% แล้วในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่พากันปรับโพสิชันเพื่อหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นและความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
นางเถ่า งอ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของบริษัทดรากอน แคปิตอลเปิดเผยในรายการ “Squawk Box Asia” ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า มูลค่าของตลาดหุ้นเวียดนามในขณะนี้อยู่ที่ระดับต่ำมาก และคาดว่ากำไรต่อหุ้นมีแนวโน้มเติบโตกว่า 20% ในปีนี้ พร้อมกับกล่าวว่า หุ้นในกลุ่มธนาคารและค้าปลีกของเวียดนามเป็นกลุ่มที่น่าสนใจมาก โดยกลุ่มธนาคารนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะเติบโตได้อีก เนื่องจากขณะนี้ประชากรกว่าครึ่งหนึ่งในเวียดนามยังไม่สามารถเข้าถึงการบริการในภาคธนาคาร ส่วนกลุ่มค้าปลีกนั้น รายได้ของธุรกิจภาคส่วนนี้มีโอกาสฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ นางเถ่าเปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามน่าสนใจนั้น รวมถึงการที่เศรษฐกิจเวียดนามมีอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 นั้น เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวแซงหน้าจีน และยังไม่พบว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีการหดตัวแม้แต่ไตรมาสเดียว แม้ว่าจะเกิดโรคระบาดทั่วโลกก็ตาม
นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านการเมืองของเวียดนามยังมีเสถียรภาพ และมีปัจจัยต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวย เช่นการเติบโตอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลาง ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้กับเศรษฐกิจเวียดนามสามารถขยายตัวได้ถึง 6-7% ในปีนี้
ส่วนเรื่องเงินเฟ้อที่สร้างความวิตกกังวลให้กับประเทศทั่วโลกเช่นสหรัฐและสหราชอาณาจักรนั้น เวียดนามกลับสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้แล้วในขณะนี้ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ปรับตัวขึ้น 2.6% ขณะที่ดรากอน แคปิตอลคาดการณ์ว่า ตัวเลข CPI ตลอดปี 2565 ของเวียดนามจะอยู่ที่ 4-5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 65)
Tags: ดรากอน แคปิตอล, ตลาดหุ้นเวียดนาม, เถ่า งอ, เวียดนาม