หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาครับแรงกดดันเงินเฟ้อสูง-ต่างชาติอาจขายต่อ

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อของไทยเดือน พ.ค. สูงกว่าคาด อาจกดดัน ธปท. ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยช่วงที่เหลือของปีนี้ ในขณะเดียวกันคาดว่าจะมีแรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว โดยให้แนวรับที่ 1,636-1,640จุด และ แนวต้าน 1,650-1,655 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค โดยได้รับปัจจัยกดดันอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยในเดือน พ.ค. ที่ออกมาวานนี้สูงถึง 7.1% ซึ่งสูงกว่าตลาดคาดที่ 5.8% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดที่ 4.9% อาจจะเป็นแรงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้หรือไม่ โดยจะต้องติดตามการประชุม กนง. ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้

ในขณะเดียวกันทิศทางค่าเงินบาทก็อ่อนค่าลง จึงคาดว่าจะมีแรงขายสุทธิอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 วันติดต่อกัน จากนักลงทุนต่างชาติ

ขณะที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในัวันที่ 9 มิ.ย.นี้คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย. จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.5% และเมื่อคืนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield)อายุ 10 ปี ของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 3% ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก

โดยให้แนวรับที่ 1,636-1,640 จุด และ แนวต้าน 1,650-1,655 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,915.78 จุด เพิ่มขึ้น 16.08 จุด หรือ +0.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,121.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด หรือ +0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,061.37 จุด เพิ่มขึ้น 48.64 จุด หรือ +0.40%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,984.79 จุด เพิ่มขึ้น 68.90 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,577.48 จุด ลดลง 76.42 จุด หรือ -0.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,235.42 จุด ลดลง 0.95 จุด หรือ -0.03%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 มิ.ย.) ที่ระดับ 1,646.08 จุด ลดลง 1.59 จุด, -0.10%

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,153.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.(6 มิ.ย.) ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 118.50 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 24.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.46 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์แข็งค่า นลท.รอประชุมกนง.พรุ่งนี้

– กบน.มีมติปรับขึ้นดีเซลเป็นสัปดาห์ที่ 2 อีก 1 บาทต่อลิตร ราคาขยับแตะ 33.94 บาทต่อลิตร มีผลวันนี้ ลุ้นต่อสัปดาห์หน้า มีโอกาสขยับอีก 1 บาท ส่วนผู้ใช้เบนซินได้เฮ ปรับลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยอมสูญรายได้วันละ 26 ล้านบาท มีผลถึงสิ้น มิ.ย.นี้ กดราคาขายปลีกลงทันที 40-60 สตางค์ต่อลิตร พร้อมจับตา ก.ค. LPG จะขยับอีกหรือไม่ ส่วนการกู้เงินโปะกองทุนน้ำมันฯ ยังไม่คืบ แม้จะติดลบแล้ว 8.6 หมื่นล้าน “พาณิชย์” เผยน้ำมันแพง ก๊าซหุงต้ม ค่าไฟ อาหารสดขึ้นราคา ดันเงินเฟ้อ พ.ค.พุ่ง 7.1% สูงสุด 13 ปี

– สภา กทม.นัดแรก ถก “ถอดแมสก์” พื้นที่โล่งแจ้ง สำนักการแพทย์ ประเมินตัวเลขติดเชื้อน้อยกว่า 500 คนต่อวัน ชงศบค.ผ่อนคลายมาตรการ ด้าน สมช. ขอประเมินสถานการณ์ แย้มข่าวดีขยายเวลา เปิดผับ-บาร์ ถึง 02.00 น. สธ.เปิดข้อมูลฉีดวัคซีนโควิด-19 พบ 20 จังหวัดฉีด เข็มกระตุ้นได้มากกว่า 60% ส่วนเขตสุขภาพที่ 12 ภาคใต้ตอนล่าง ฉีดได้ต่ำที่สุด ย้ำกระจายวัคซีนถึงรพ.สต.แล้ว ช่วยประชาชนเข้าถึงบริการสะดวกมากขึ้น

– กนง.นัดประชุม 8 มิ.ย.นี้ พิจารณาดอกเบี้ย กรอบเงินเฟ้อ ประมาณการเศรษฐกิจ “อาคม” แนะดูส่วนต่างดอกเบี้ย ใน-ต่างประเทศ สั่งแบงก์รัฐตรึงดอกเบี้ย แนะเอกชนเร่งลงทุน “เกียรตินาคินภัทร” ชี้เงินเฟ้อพุ่งกดดันปรับนโยบายขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ “ซีไอเอ็มบี” จ่อปรับเป้าเงินเฟ้อขึ้น “ทีทีบี” หวั่นเงินเฟ้อสูงลากยาวถึงปีหน้า สศช.เสนอเร่งกดเงินเฟ้อให้ต่ำลง เตรียมหารือ หน่วยงานเศรษฐกิจลดผลกระทบประชาชน

– นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือเบื้องต้น (เอ็มโอยู) โครงการความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการตลอด Value Chain ของภาคส่งออก ระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กับพันธมิตรภาคเอกชน ว่า ในฐานะกำกับดูแลสถาบันการเงินของรัฐ ได้สั่งการให้ช่วยตรึงอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้ประกอบการในช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังพิจารณาความสมดุลของอัตราดอกเบี้ย หากดอกเบี้ยต่างประเทศแพงกว่าในประเทศ จะทำให้เงินทุนไหลออกได้ แต่หากจะปรับขึ้น ก็คงไม่แพงเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว

*หุ้นเด่นวันนี้

– SAPPE (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 38 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/65 ไตรมาส 3/65 จะปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ จากตลาดส่งออกที่โตดีมากทั้งเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง ล่าสุด US กลับมาฟื้น Q-Q หลังคำสั่งซื้อถูกเลื่อนมาและยังได้ผลบวกจากบาทอ่อน ต้นทุนพลาสติกยังทรงตัวเท่า ไตรมาส 1/65 เพราะสต็อกไว้ แม้ราคาพลาสติกปรับขึ้นไตรมาส 3/65 แต่อยู่ระหว่างปรับให้กระทบต้นทุนน้อยที่สุด คาดเห็นสินค้าใหม่หลายตัวใน ไตรมาส 3/65 คาดกำไรปี 2565 +25% Y-Y หากกำไรไตรมาส 2/65 ทำได้ดีกว่าคาดจะเป็น Upside ต่อประมาณการและราคาเป้าหมาย ปัจจุบันเทรด PE เพียง 20 เท่า

– BANPU (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 14.00 บาท เตรียมจดทะเบียน IPO บ. ลูก ที่สหรัฐ หลังเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติจาก Exxon Mobil หนุนกำลังการผลิต 225 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (คิดตามสัดส่วนการลงทุน) พร้อม Synergy ลดต้นทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและ Commodity ยังได้ประโยชน์จากสถานการณ์ปัจจุบันทั้งเรื่องการเปิดประเทศทั่วโลกที่หนุน Demand และภาวะสงครามที่หนุนราคาพลังงานทรงตัวสูงตลอดทั้งปี KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 3.14 หมื่น ลบ. และ 2.46 หมื่น ลบ. +155%YoY, -34.5%YoY ตามลำดับ

– TOP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 63 บาท คาดความต้องการใช้น้ำมันดิบและสำเร็จรูปในภูมิภาคเพิ่มขึ้นหลังจากจีนคลายล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ 1 มิ.ย. และเริ่มคลายล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top