หุ้นไทยปิดลบ 1.59 จุดบ่ายลดช่วงลบ คาดหวังศก.จีนฟื้นหลังเตรียมคลายมาตรการคุมโควิด

SET ปิดที่ระดับ 1,646.08 จุด ลดลง 1.59 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 58,372.21 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าลดลงจากแรงกดดันของเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของไทยพุ่งถึง 7.1% แต่ช่วงบ่ายดัชนี้ฟื้นตัวขึ้นตามตลาดหุ้นยุโรปที่บวกกว่า 1% รับความคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้น หลังปักกิ่งเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดไซด์เวย์รอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 8 มิ.ย. โดยให้แนวรับ 1,640 จุด และ แนวต้าน 1,650 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,646.08 จุด ลดลง 1.59 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 58,372.21 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีร่วงลงช่วงเช้าก่อนฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายตามตลาดหุ้นยุโรป โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,652.11 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,636.08 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 573 หลักทรัพย์ ลดลง 1,104 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 587 หลักทรัพย์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวลดลงค่อนข้างมากหลังจากอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือน พ.ค. ออกมาสูงถึง 7.1% ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายทางการเงินของประเทศไทย

แต่อย่างไรก็ตามดัชนีในช่วงบ่ายฟื้นตัวขึ้นมามีช่วงลบที่ลดลง หลังจากตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากกรุงปักกิ่งเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ มีมาตรการต่างๆเพื่อที่จะออกมาของรัฐบาลจีนด้วย

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดฯจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ เพื่อรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 8 มิ.ย. โดยให้แนวรับ 1,640 จุด และ แนวต้าน 1,650 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,878.26 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,262.69 ล้านบาท ปิดที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,461.82 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,453.96 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,356.80 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top