บล.พาย มองกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,625-1,660 จับตากนง.คาดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พาย ประเมินกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) สัปดาห์นี้ 1,625-1,660 จุด

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับฐานลง 1.05% จากรายงานข่าวว่านักลงทุนวิตกกังวลการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน พ.ค.65 เพิ่มขึ้น 3.9 แสนตำแหน่ง สูงกว่าตลาดประเมินที่ 3.25 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานอยู่ที่ 3.6% แย่กว่าตลาดประเมินที่ 3.5% พร้อมกับค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงขยายตัว 0.3% MoM ต่ำกว่าตลาดประเมินที่ 0.4% MoM

อย่างไรก็ตาม บล.พาย กลับตั้งข้อสังเกตว่าตลาดน่าจะวิตกกังวลกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มากกว่า เพราะหากประเมินแล้วพบว่าตัวเลขการจ้างงานต่ำสุดในรอบ 1 ปีสอดคล้องกับการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ในวันพุธที่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันนาย Elon Musk ได้ส่งอีเมลล์ถึงผู้บริหาร TESLA ระบุว่าอาจต้องลดพนักงานลงราว 10% เพราะรู้สึกแย่กับภาวะเศรษฐกิจ

ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.8% แม้กลุ่มโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามา 6.48 แสนบาร์เรล/วัน สูงกว่ากำหนดการเดิม 4.32 แสนบาร์เรล แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ส่งผลลบต่อราคาน้ำมัน โดยตลาดให้น้ำหนักกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีนหลังคฃายล็อกดาวน์มากกว่า

สัปดาห์นี้ปัจจัยหลักของตลาด ได้แก่ การรายงานภาวะเงินเฟ้อทั้งไทยและของสหรัฐฯ โดยประเทศไทยกำหนดรายงานในเช้าวันจันทร์ Bloomberg คาดว่าอัตราเงินเฟ้อประจำเดือน พ.ค. จะขยายตัว 5.9% YoY และมองว่าเงินเฟ้อยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในเดือนมิ.ย.65 สะท้อนผ่านราคาน้ำมันดีเซลในประเทศที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากรัฐบาลเริ่มชดเชยในอัตราส่วนที่น้อยลง จึงถือเป็นความเสี่ยงต่อทั้งเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่มีโอกาสเพิ่ม Downside Risk ต่อประมาณการ โดยกลุ่มที่ต้องระมัดระวัง ได้แก่ สินค้าฟุ่มเฟือย เช่น COM7 SIS SYNEX

ถัดมาจะเป็นเงินเฟ้อสหรัฐฯในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินที่ +8.3% YoY และ +0.7% MoM ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +5.9%YoY และ +0.5% MoM เป็นที่น่าสังเกตว่าเงินเฟ้อสหรัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง MoM ดังนั้น การจะบอกว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯผ่านจุดสูงสุดแล้วอาจยังไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง

สุดท้ายจะเป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธนี้ Bloomberg คาด กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม 0.5% แต่มีจุดน่าสนใจคือมีนักเศรษฐศาสตร์บางท่านเริ่มเห็นโอกาสที่ กนง.อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาที่ 0.75%

เชิงกลยุทธ์การลงทุนทยอยลดน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากในช่วงถัดไปมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย

ส่วนระยะสั้นแนะนำกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) กลุ่มที่ผลกระทบจากเงินเฟ้อจำกัด อาทิ สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ค้าปลีก (BJC CPALL) โรงพยาบาล (BCH CHG)

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 179 บาท) ได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ BRT , WTI ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง เช้านี้ยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 1.4% แม้โอเปคลพัสจะปรับขึ้นกำลังการผลิต 50% แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยให้ราคาน้ำมันปรับลง สะท้อนอุปทานขาด

BCH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท) หากไม่รวมรายได้จากเคสโควิด-19 คาดว่ากำไรปี 65-66 จะก้าวกระโดดขึ้น 2.5 เท่า/1.8 เท่า ตามลำดับ เทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 จึงเชื่อว่าธุรกิจหลักยังมีภาพรวมที่ดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top