นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงยอดการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มในวันแรกว่า ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี โดยระบบมีความราบรื่น และการเปิดจำหน่ายสลากฯ ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” วันแรกซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ จึงทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชน ที่สำคัญคือสามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท โดยเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) หลังจากสิ้นสุดเวลาจำหน่าย 23.00 น. พบว่ามียอดจำหน่ายสลาก 2,460,723 ใบ จำนวนผู้ซื้อสลาก 612,141 คน จากจำนวนสลากทั้งหมด 5,279,500 ฉบับ
ส่วนแนวทางการเพิ่มจำนวนสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มนั้น นายลวรณ กล่าวว่า คงต้องพิจารณาความเหมาะสม เพราะสำนักงานสลากฯ เอง ก็ต้องการให้การขายสลากแบบใบสามารถขายควบคู่กันไปได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป
“เมื่อวานนี้ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเห็นว่าสลากดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผู้ซื้อสามารถมาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทแน่นอน และระบบมีความพร้อมให้ผู้ที่ต้องการซื้อสลากสามารถซื้อได้ อีกทั้งในกรณีที่ถูกรางวัล ก็เลือกขึ้นเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที” นายลวรณ กล่าว
อย่างไรก็ดี ประชาชนสามารถซื้อสลากฯ จากโครงการจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ที่จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุด ทั่วประเทศไทย ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงวิธีการขึ้นเงินรางวัลสลากฯ ดิจิทัลว่า กรณีถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทาง คือ วิธีแรก เลือกรับโดยการโอนเงิน ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในอนาคตจะปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่น ๆ ได้ เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 1% และค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5%
ส่วนวิธีที่สอง สามารถเลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยต้องกำหนด วัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัล เพื่อที่สำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากแบบใบตัวจริง เพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล โดยวิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% พร้อมยืนยันว่าการกำหนดค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ ได้ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำสลากฯ ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากฯ หรือธนาคารออมสิน หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารกรุงไทย
“กรณีที่ถูกรางวัลสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มฯ จะต้องแจ้งในระบบว่า จะเลือกรับเงินรางวัลผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งภายในกำหนด จะต้องมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากภายใน 2 ปี โดยสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มหรือดิจิทัลที่ซื้อไว้ จะแสดงอยู่ในประวัติข้อมูลการซื้อ 1 ปี ทั้งนี้ หากเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ จะได้รับเงินโอนหลังจากที่แจ้ง ภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งยืนยันว่าจากที่ทดสอบระบบ การโอนเงินรางวัลไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขอให้ผู้ซื้อสลากทุกคนไม่ต้องกังวล” พ.ท.หนุน กล่าว
พร้อมระบุว่า การจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มหรือสลากดิจิทัลนั้น สลากทุกใบเป็นของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สำนักงานสลากฯ เป็นแต่เพียงสนับสนุน จัดหาช่องทางการจำหน่ายในราคา 80 บาท ที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และส่งเสริมตัวแทนรายย่อยผู้ขาย ให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์มซึ่งมีผู้เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องเสียค่าใช้ในการเร่ขาย
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะปัจจุบันประชาชนที่ซื้อสลากตามแผงก็สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว และขอย้ำว่าสลากทุกใบเป็นของพ่อแม่พี่น้องตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อจะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นตัวแทนรายย่อยอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มิ.ย. 65)
Tags: ลวรณ แสงสนิท, สลากกินแบ่งรัฐบาล, สลากดิจิทัล, เป๋าตัง