อินเดียกำลังประสบปัญหาราคามะเขือเทศพุ่งสูงขึ้น ทำให้บรรดานักการเมืองต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากภาวะผักราคาแพงเคยมีประวัติโค่นอำนาจรัฐบาลอินเดียมาแล้วหลายครั้ง
ราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงมะเขือเทศ อาจส่งผลกระทบทางการเมือง ในขณะที่พรรคภารตียชนตา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล มีกำหนดเผชิญศึกเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในรัฐคุชราฏ ซึ่งเป็นรัฐบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งถือเป็นการหยั่งเสียงว่าเขาจะมีสิทธิ์ลุ้นนั่งแท่นนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่สามในปี 2567 หรือไม่
มะเขือเทศ มันฝรั่ง และหัวหอมใหญ่ ถือเป็นสามวัตถุดิบหลักในการทำอาหารอินเดีย โดยมักถูกนำไปผสมกับเครื่องเทศเพื่อทำอาหารประเภทแกง เช่น แกงไก่ทิกกา มาซาลา โดยราคาเฉลี่ยของมะเขือเทศในอินเดียพุ่งขึ้นถึง 70% จากเมื่อหนึ่งเดือนก่อน และ 168% จากหนึ่งปีก่อนหน้า แตะที่ 53.75 รูปี (69 เซนต์) ต่อกิโลกรัม ณ วันอังคารที่ผ่านมา
ราคาสินค้าทุกประเภทในอินเดีย ตั้งแต่น้ำมันปรุงอาหารไปจนถึงแป้งสาลีปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีในเดือนเม.ย. และส่งผลกระทบต่อรายจ่ายของภาคครัวเรือน รัฐบาลอินเดียจึงออกคำสั่งจำกัดการส่งออกข้าวสาลีและน้ำตาลเพื่อบรรเทาปัญหา
ขณะที่ธนาคารกลางอินเดียมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนนี้ หลังเพิ่งปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบไม่คาดหมายในเดือนพ.ค. โดยสมาชิกที่นิยมนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางอินเดียเปิดเผยว่า ราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าที่เจ้าหน้าที่ทางการเงินคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้
สำหรับในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2561 นั้น นายกฯโมดีได้ประกาศว่า เหล่าเกษตรกรมีความสำคัญสูงสุด (TOP) โดยอธิบายว่า TOP ที่ว่านี้คือมะเขือเทศ (Tomato) หัวหอมใหญ่ (Onion) และมันฝรั่ง (Potato)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 65)
Tags: นเรนทรา โมดี, มะเขือเทศ, ราคาอาหาร, อินเดีย