นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพีแอล กรุ๊ป (CPL) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าเข้าสู่ตลาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายขยายตลาดและเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านสินค้าในกลุ่ม Bio-TAN ที่มีกระบวนการจัดซื้อเคมีภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ ตลอดจนกระบวนการผลิต เพื่อลดมลภาวะ (Bio-Tanning Chrome Free)
บริษัทได้ทำงานร่วมกับภาครัฐ เช่น การดำเนินงานและส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จัดโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อตอบโจทย์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าสินค้าในกลุ่มยั่งยืนจะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต และล่าสุด บริษัทยังเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ดัชนีหุ้นยั่งยืน (THSI Sustainability Index) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย
นายภูวสิษฎ์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้กลับมาคึกคัก หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้ผู้บริโภคสามารถกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงกับปกติมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับธุรกิจฟอกหนังโดยตรง สะท้อนได้จากคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่มีเข้าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ขณะนี้โรงฟอกหนังของ CPL กลับมาใช้กำลังการผลิตได้ในระดับเกือบ 100% โดยธุรกิจผลิตหนังสำเร็จรูป (Finished Leather) ใช้กำลังการผลิต 85-90% ส่วนงานฟอกหนัง (Tanning) ในส่วนของหนังวัว ใช้กำลังการผลิตประมาณ 70% และหนังหมู ใช้กำลังการผลิตราว 85%
“สัญญาณตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ธุรกิจฟอกหนังผ่านจุดต่ำสุดและจุดซบเซาที่สุดมาแล้ว และมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ จากความมั่นใจของผู้บริโภค ซึ่งโรงงานของ CPL สามารถรองรับออเดอร์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้ จากการที่เราใช้เวลาและงบประมาณในการปรับปรุงเครื่องจักร นวัตกรรมการผลิต รวมถึงระบบการจัดส่งให้ลูกค้าซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันที โดยในส่วนของการผลิตหนังสำเร็จรูปนั้น มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าหลักซึ่งเป็นแบรนด์รองเท้าดัง “ดร.มาร์ติน” (Dr.Martens) ที่เติบโตได้ถึง 3-4 เท่า ขณะที่ธุรกิจฟอกหนัง มีออเดอร์ผลิตจากลูกค้าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เราเข้าไปทำตลาดในช่วงก่อนหน้า ก็ขยายตัวได้ดี และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
นายภูวสิษฏ์กล่าว
สำหรับแนวโน้มในครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะยังคงรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ได้ โดยนอกจากปัจจัยสนับสนุนเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว ยังมีเรื่องของต้นทุนหนังดิบที่คาดว่าจะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งขณะนี้มีสัญญาณของการปรับลดลงบ้างแล้ว ขณะที่ปัจจัยที่บริษัทฯ จับตาอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่อาจจะกระทบกับการจับจ่ายใช้สอย ภาวะเงินเฟ้อและราคาวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม ยังคงมั่นใจว่าในปีนี้ธุรกิจของ CPL ยังสามารถรักษาเป้าหมายการเติบโตไว้ได้ที่ระดับ 20% ตามที่คาดการณ์ไว้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 65)
Tags: CPL, ซีพีแอล กรุ๊ป, ภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน, หุ้นไทย