หุ้นกลุ่มโรงกลั่นบวกสวนตลาดจากรับประโยชน์ค่าการกลั่นสูงหลังซัพพลายตึงตัวแต่ดีมานด์กลับเพิ่มขึ้นจาก Driving Season และจีนคลายล็อกดาวน์
เมื่อเวลา 10.47 น. SPRC ปรับขึ้น 2.46% หรือเพิ่มขึ้น 0.30 บาท มาที่ 12.50 บาท
- TOP ปรับขึ้น 1.74% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 58.50 บาท
- BCP ปรับขึ้น 0.76% หรือเพิ่มขึ้น 0.25 บาท มาที่ 33.00 บาท
- ESSO ปรับขึ้น 0.97% หรือเพิ่มขึ้น 0.10 บาท มาที่ 10.40 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มโรงกลั่นน่าจะได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นที่จะเพิ่มสูงขึ้นหลังราคาน้ำมันขาขึ้น ได้แก่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) (TP: 36.00), บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) (Consensus:10.77), บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) (Consensus:12.66) และ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) (TP:72.00) เนื่องจากจากยุโรปจะนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันค่าการกลั่นขึ้นสูงกว่า 30 เหรียญ/บาร์เรล
ขณะนี้ซัพพลายน้ำมันตึงตัว ประเมินสงครามรัสเซียยูเครนยืดเยื้อ และล่าสุดทางยุโรปได้แบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียทางเรือถึง 2 ใน 3 ที่เคยนำเข้า ซึ่งคิดเป็นปริมาณที่สูงถึง 1.5-2.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1-2% ของปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลก และภายในสิ้นปี 65 จะหยุดการนำเข้าให้ได้ 90%
และซัพพลายจากกลุ่มโอเปกค่อนข้างจำกัด การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกในเดือน เม.ย.65 อยู่ที่ราว 28 ล้านบาร์เรลต่อวัน เกินกว่าที่โอเปกตกลงไว้ โดยมี Compliance อยู่ที่ 113% แต่เป็นอัตราของ Compliance Rate ที่ลดลง ซึ่งบ่งบอกว่ากลุ่มโอเปก เริ่มประสบปัญหาในการเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว เมื่อลงลึกไปดูถึง Production และ Capacity ของประเทศหลักๆ ในกลุ่มโอเปก คือ ซาอุฯ, UAE และ คูเวต พบว่า Spare capacity นั้นเหลืออยู่ค่อนข้างน้อย เพียง 5 แสนล้านบาร์เรลต่อวัน ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ขณะที่ดีมานด์เพิ่มขึ้น โดยในสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ช่วง Driving Season ตั้งแต่ มิ.ย.จนถึงต้น ก.ย. เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศอบอุ่น และเดือน ก.ค.ปิดภาคเรียนฤดูร้อน ส่งผลให้มีการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมาขึ้น โดยจะเป็นช่วงที่มีความต้องการน้ำมันเบนซินซึ่งเป็นน้ำมันหลักในการเดินทางเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Stock ทั้งเบนซินและดีเซลก็อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี
และทางการเซี่ยงไฮ้เตรียมกลับมาเปิดเมืองอีกครั้งในวันพุธ (1 มิ.ย.) หลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 มาเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งการเปิดเมืองเซี่ยงไฮ้จะทำให้ความต้องการน้ำมันในประเทศจีนเพิ่มขึ้น รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.อยู่ที่ 49.6 แม้เพิ่มขึ้นจากระดับ 47.4 ในเดือนเม.ย. แต่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งมาจากผลกระทบมาตรการล็อกดาวน์ แต่แนวโน้มเดือน มิ.ย.น่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาสูงกว่า 50 ได้หลังกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 65)
Tags: BCP, ESSO, SPRC, TOP, บางจาก คอร์ปอเรชั่น, สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง, หุ้นกลุ่มโรงกลั่น, หุ้นไทย, เอสโซ่, ไทยออยล์