บลูมเบิร์กเอ็นอีเอฟ (BNEF) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าตัวภายในปี 2568 แต่รัฐบาลและผู้ผลิตยังจำเป็นต้องพยายามมากยิ่งขึ้น เพื่อขจัดการปล่อยมลพิษจากการขนส่งทางบกภายในช่วงกลางศตวรรษนี้
นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กเอ็นอีเอฟเปิดเผยในรายงานการคาดการณ์รถไฟฟ้าระยะยาวประจำปีครั้งที่ 7 ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (1 มิ.ย.) ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้านั้นประสบความสำเร็จ โดยคาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าโดยสารนั้นจะพุ่งแตะ 20.6 ล้านคันในปี 2568 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์เมื่อหนึ่งปีก่อนที่ 14 ล้านคัน โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีน
อย่างไรก็ดี การทดแทนรถยนต์โดยสารซึ่งใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจำนวน 1.2 พันล้านคันบนถนนนั้นต้องอาศัยเวลา โดยจะมีรถเพียงกว่า 2 ใน 3 ทั่วโลกที่ปลอดมลพิษภายในปี 2593 หากไม่มีการออกนโยบายหรือกฎระเบียบใหม่ ๆ ขณะที่ยานหนะเชิงพาณิชย์น้ำหนักมากมีแนวโน้มจะรั้งท้ายกว่ามาก โดยมีเพียง 29% ที่จะปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงเวลาเดียวกัน
นายโคลิน แมกเคอร์ราเชอร์ หัวหน้าฝ่ายคมนาคมล้ำสมัยของ BNEF ระบุในรายงานว่า “แม้จะมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การขนส่งทางบกยังไม่เข้าใกล้ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2568 แม้แต่น้อย” และเพิ่มเติมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจำเป็นต้องเข้ามาดำเนินการในเชิงรุก โดยเฉพาะในด้านยานยนต์น้ำหนักมากที่ทั้งรถพลังงานแบตเตอรีและไฮโดรเจนพยายามชิงส่วนแบ่งตลาด โอกาสในการบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์กำลังหมดลงอย่างรวดเร็ว”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 65)
Tags: lifestyle, รถยนต์ไฟฟ้า, รถอีวี