นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาโครงการกรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้” (Krungthep Kreetha Community) บนพื้นที่ 500 ไร่รองรับการพัฒนาสังคมอยู่อาศัยมูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท หลังปิดการขาย 2 โครงการบ้านเดี่ยว เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา และเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 ในทำเลดังกล่าว ซึ่งมีขนาดพื้นที่รวม 155 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 7.5 พันล้านบาท ตอบโจทย์ทั้งอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่าในคอมมูนิตี้ของชาวต่างชาติที่ทำงานในโรงเรียนนานาชาติในทำเลใกล้เคียง ทำให้ได้อัตราค่าเช่าที่ดีและสูงกว่าทำเลอื่น
“แสนสิริเล็งเห็นว่า ทำเลกรุงเทพกรีฑา จะเป็นอีกหนึ่งทำเลในเมืองใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาและเติบโตสูง จึงพัฒนาโครงการคอมมูนิตี้การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต”
นายอุทัย กล่าว
บริษัทเชื่อว่าถนนกรุงเทพกรีฑา เป็นคอมมูนิตี้การอยู่อาศัยที่น่าจับตามอง เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับเรสซิเดนซ์เชียลของโครงการแนวราบ ในกรุงเทพฯ โซนตะวันออก จากศักยภาพพื้นที่ “ผังเมืองสีเหลือง” มีความหนาแน่นของการอยู่อาศัยน้อย และเป็นเขตปลอดแหล่งอุตสาหกรรม เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยที่เน้นคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดี
ประกอบกับมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เดินทางสู่กรุงเทพชั้นใน (CBD) ได้ง่าย เชื่อมต่อการคมนาคมทุกเส้นทางเข้าสู่เมือง ส่งผลให้ราคาที่ดินของทำเลกรุงเทพกรีฑาพุ่งสูงขึ้นถึง 150% ในเวลา 10 ปี โดยเฉพาะราคาที่ดินในช่วงต้นถนนตัดใหม่ คือ ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ราคาพุ่งขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินติดถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ล่าสุดอยู่ที่ 140,000 บาท/ตารางวา จากความต้องการการอยู่อาศัยขยายตัวอันดับหนึ่ง เติบโตขึ้นราว 10%
ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาที่ดินทำเลกรุงเทพกรีฑา จำนวน 500 ไร่ของแสนสิริ ให้เป็น “กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้” ด้วยจุดแข็งหลัก ได้แก่ Location ตั้งอยู่ในทำเลดีที่สุดของกรุงเทพกรีฑาที่มีความโดดเด่นเข้า-ออกได้ 2 เส้นทาง ทั้งทางถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์ -ร่มเกล้า) และถนนรามคำแหง ใกล้ทางด่วนศรีบูรพา รถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิด้วยถนนมอเตอร์เวย์เพียง 20 นาที ทั้งยังเชื่อมต่อด้วยถนนสายสำคัญต่างๆ รวมทั้ง Community ความเป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ที่พัฒนาภายใต้แนวคิด “You are Made for Life”
นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ SIRI กล่าวว่า กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ ภายใต้แผนการพัฒนารวมประมาณ 500 ไร่ จะมีการพัฒนาโครงการใหม่ด้วยการเปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับบนอีก 3 โครงการในปีนี้ มูลค่ารวม 9.3 พันล้านบาท ได้แก่ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา พื้นที่โครงการ 57 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท, บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา พื้นที่ 85 ไร่ มูลค่า 4 พันล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญของแสนสิริ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่นที่ให้ความสนใจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกันในทำเลนี้ จากการมองเห็นศักยภาพของทำเล
รวมทั้งต่อยอดแบรนด์เรสซิเดนท์เชียลที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในปีนี้ผ่านมา เปิดตัว “บูก้าน กรุงเทพกรีฑา” พื้นที่ 19 ไร่ มูลค่า 1.3 พันล้านบาท ในทำเลนี้อีกด้วย รวมถึงโครงการในอนาคต รวมพื้นที่สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ทั้งหมดประมาณ 500 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 3 หมื่นล้านบาท
จุดแข็งของกรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ ของแสนสิริในทำเลที่มีเหนือคู่แข่ง และการพัฒนาสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบภายใต้แนวคิด “You are Made for Life” ในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาพื้นที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ครอบคลุมและประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับการพัฒนา แสนสิริ ทาวน์ สุขุมวิท 77 บนพื้นที่ 50 ไร่ใจกลางสุขุมวิท 77
สำหรับทิศทางโครงการแนวราบของแสนสิริในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมายังส่งผลให้บริษัทมียอดขายจากโครงการแนวราบแล้วไปแล้ว 8.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 40% จากเป้ายอดขายโครงการแนวราบที่วางไว้ 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็นยอดขายที่ดีที่จะดันให้ทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 65)
Tags: SIRI, อุทัย อุทัยแสงสุข, แสนสิริ