รัฐบาลจีนประกาศว่าจะดำเนินการขยายเครื่องมือทางการเงิน และใช้นโยบายการคลังและการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงคำแนะนำด้านนโยบายจากกระทรวงการคลังจีนซึ่งเผยแพร่ในวันจันทร์ (30 พ.ค.) ว่า จีนตั้งเป้าสร้างกรอบนโยบายการเงินพื้นฐานภายในปี 2573 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ รวมถึงตั้งเป้าพัฒนากลไกตลาดมากขึ้น เช่น การซื้อขายคาร์บอนเครดิตและมลพิษ
จีนซึ่งเป็นผู้สร้างก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้การปล่อยมลพิษแตะระดับสูงสุดให้ได้ก่อนปี 2573 และกลายเป็นประเทศที่เป็นกลางทางคาร์บอนอย่างสมบูรณ์แบบภายในปี 2603
ก่อนหน้านี้ จีนให้คำมั่นว่าจะเริ่มลดการใช้ถ่านหินตั้งแต่ปี 2569 โดยหันมาใช้พลังงานลมและเพิ่มขีดความสามารถด้านพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้เกือบเท่าตัวสู่ 1,200 กิกะวัตต์ภายในสิ้นทศวรรษนี้
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยโดยอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการคลังจีนว่า แนวทางใหม่ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้าง “ระบบการคลังและจัดเก็บภาษีที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ”
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจีนยังตั้งเป้าสร้าง “กลไกจูงใจและยับยั้ง” เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่แบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำในกลุ่มรัฐบาลท้องถิ่น
รัฐบาลจีนจะปรับเปลี่ยนระบบภาษีให้ครอบคลุมนโยบายที่ให้สิทธิพิเศษมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและน้ำ รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะที่ภาษีนำเข้าจะถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านการพัฒนาที่มีคาร์บอนต่ำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 65)
Tags: ความเป็นกลางทางคาร์บอน, นโยบายการคลัง