SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.61 จุด เพิ่มขึ้น 14.86 จุด (+0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 67,561.59 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค รับคลายกังวลเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด และ Bond yield สหรัฐฯ ปรับตัวลง หนุนเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ตลาดหุ้น ขณะเดียวกันทิศทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังเปิดเมืองและเปิดประเทศ ช่วยหนุนกลุ่มท่องเที่ยวและบริโภค เป๊นบวกต่อตลาดหุ้นไทย แนวโน้มพรุ่งนี้คาดอาจย่อตัวลงในระยะสั้นและแกว่งไซด์เวย์ หลังปรับขึ้นมามาก และรอปัจจัยใหม่ โดยให้แนวต้าน 1,665-1,670 จุด แนวรับ 1,640-1,645จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.61 จุด เพิ่มขึ้น 14.86 จุด (+0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 67,561.59 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกตลอดวัน โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,656.54 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,646.95 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,161 หลักทรัพย์ ลดลง 641 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 549 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค รับแรงหนุนจากความคลายกังวลตัวเลขเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว หลังจากสหรัฐฯประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (Core PCE) เดือนเม.ย.ออกมาเริ่มเห็นการชะลอตัวลงทำให้ตลาดผ่อนคลายแรงกดดันการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงๆเริ่มลดลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ(Bond yield) 10 ปี ได้ปรับลดลงมาที่ 2.75% หนุนต่อตลาดหุ้น และทำให้เงินไหลกลับเข้ามาเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ซึ่งหนุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการบริโภค ปรับตัวขึ้น และมีแรงซื้อเข้ามาค่อนข้างมาก สะท้อนภาพความมั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้มองว่าหดัชนีปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากหลัง และขึ้นมาทดสอบระดับแนวต้าน 1,650จุดได้ อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้ดัชนีย่อตัวลงมาได้ในระยะสั้น และแกว่งตัวไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่โดยปัจจัยที่ติดตามมีการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปที่มีถึงสิ้นเดือนพ.ค.นี้ จะมีมาตรากรคว่ำบาตรรัสเซียออกมาเพิ่มเติมอย่างไร และพรุ่งนี้จะมีการปรับลดน้ำหนักหุ้นเข้าออก MSCI Rebalance ซึ่งได้รับข่าวไปแล้ว
โดยให้แนวต้าน 1,665-1,670 จุด แนวรับ 1,640-1,645 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,239.84 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,309.29 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,763.32 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,499.15 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,494.81 ล้านบาท ปิดที่ 25.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 832.68 ล้านบาท ปิดที่ 66.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย