- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,631.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.59 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 32,147 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเข้า โดยทำระดับสูงสุด 1,635.56 จุด และระดับต่ำสุด 1,629.31 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช้านี้ปรับขึ้นสะท้อนมุมมองเชิงบวกจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ไม่ได้ออกมาแย่กว่าที่ตลาดเคยรับรู้ กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่งไม่ได้แสดงโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย และ ความเห็นกรรมการเฟดระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบเดือนก.ย.หากเงินเฟ้อลดตวามร้อนแรงลง
ทั้งหมดกลายเป็นปัจจัยบวก ทำให้นักลงทุนมองสถานการณ์ตลาดเฟดอาจจะจบรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า และหากควบคุมเงินเฟ้อได้ ความจำเป็นที่ใช้นโยบายการเงินตึงตัวก็คงลดลง ตัวเลขเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้อก็มีสัญญาณชะลอ จึงมีมุมมองบวกมากขึ้น ทำให้ตลาดกลับมาฟื้นได้
นายกิจพณ คาดว่าในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าตลาดหุ้นมีโอกาสเคลื่อนไหวเป็นบวก โดยขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกและลบชัดเจน จึงมองเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ตลาดมีโอกาสฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยมีลุ้นดัชนีที่แนวต้าน 1,635-1,645 จุด ถ้าผ่านไปได้ภาพตลาดเป็นบวก ยกกรอบขึ้นไปเล่นที่กรอบใหม่ 1,660-1,670 จุด
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจจีนที่ก่อนหน้านี้กังวลตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัวนั้น จีนก็ได้ลดดอกเบี้ยและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบต่าง ๆ ดังนั้น โอกาสที่ตลาดจีนจะแย่กว่านี้คงไม่มาก
แนวโน้มตลาดช่วงบ่ายให้กรอบไว้ 1,628-1,640 จุด โดยภาคเช้ามีการเล่นกลุ่มหุ้นที่อยู่ในโซนราคาต่ำ อาทิ BGRIM, GPSC, MAKRO และกลุ่มสินเชื่อ-เช่าซื้อ
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,321.03 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
- JMT มูลค่าการซื้อขาย 1,044.67 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
- BDMS มูลค่าการซื้อขาย 847.37 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 842.83 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
- CPF มูลค่าการซื้อขาย 795 44 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 65)
Tags: SET, SET Index, กิจพล ไพรไพศาลกิจ, หุ้นไทย