นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค (สธ.) เปิดเผยประสิทธิผลวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ในช่วงที่มีการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. 65 จากการใช้จริงของประชาชนจำนวน 5 แสนราย พบว่า
- ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อได้น้อยมาก ทั้งนี้ สามารถป้องกันป่วยหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 75%
- ฉีดวัคซีน 3 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อได้ 15% และป้องกันป่วยหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 93% โดยทุกสูตรป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตได้ใกล้เคียงกัน
- ฉีดวัคซีน 4 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อได้ 76% และป้องกันป่วยหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 99% โดยในการศึกษานี้ ยังไม่พบผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 4 เข็ม
อย่างไรก็ดี หลังจากฉีดวัคซีนเข็มล่าสุดไปแล้ว 6 เดือน ประสิทธิผลในการป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตยังคงสูงอยู่
นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย หลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ ถ้าทุกคนได้รับวัคซีนสูตรใดก็ได้ครบอย่างน้อย 3 เข็มเป็นพื้นฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่พบการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด เมื่อเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นวันที่ 1 ก.ค. นี้
อย่างไรก็ตาม ควรสนับสนุนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ให้ประชากรเป้าหมายที่หวังผลสูงในการป้องกันการติดเชื้อที่มีจำเพาะสายพันธุ์ระบาด และประชากรที่ต้องการผลสูงสุดในการลดการเสียชีวิตและป่วยรุนแรง
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยปอดอักเสบ และผู้เสียชีวิต ภาพรวมลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่าฉากทัศน์ที่ สธ. เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของประชาชน ที่ให้การปฏิบัติตามมาตรการเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนประจำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 65)
Tags: COVID-19, lifestyle, จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์, ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, โควิด-19, โอมิครอน