นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร และ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) ร่วมกับ 11 ธนาคาร ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การเข้าถึงระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เพื่อสนับสนุนข้อมูลสำหรับการให้บริการธุรกรรมภาษี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการให้บริการธุรกรรมภาษีของกรมสรรพากร โดยเชื่อมต่อกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของ NDID เพื่อให้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัล สามารถนำมาใช้ในการสนับสนุนข้อมูลการให้บริการธุรกรรมภาษีของกรมสรรพากร ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน สร้างการอำนวยความสะดวก ปลอดภัย สร้างความโปร่งใส และลดภาระของประชาชนและภาคเอกชนในการติดต่อหรือใช้บริการจากกรมสรรพากร
นายเอกนิติ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ NDID ร่วมด้วยธนาคารอีก 11 ธนาคารในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อการยกระดับการให้บริการธุรกรรมภาษี 2 เรื่อง คือ 1. การพิสูจน์ตัวตน 2. การเชื่อมโยงข้อมูลการให้บริการภาษี ซึ่งกรมสรรพากรคำนึงถึงความสะดวกของผู้เสียภาษีเป็นหลัก จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เป็น ID Platform เช่น NDID เพื่อให้ผู้เสียภาษีมีทางเลือกให้การยืนยันตัวตนของตนเอง
นอกจากนี้ กรมสรรพากรให้ความสำคัญในเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างปลอดภัย และการให้สิทธิ์ผู้เสียภาษีในการควบคุมข้อมูลของตนเอง ด้วยเทคโนโลยีของ NDID ซึ่งเบื้องหลังเป็น Blockchain จะทำให้ผู้เสียภาษีหรือลูกค้าของธนาคารเชื่อถือได้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ขาดในการร้องขอให้รับ/ส่งข้อมูลของตนเองที่เก็บไว้ในหน่วยงานในกลุ่ม และหน่วยงานในกลุ่มจะเชื่อถือได้ว่าไม่ได้ปลอมแปลงเอกสารและมีการร้องขอให้รับ/ส่งข้อมูลที่ได้รับการยินยอมแล้วจริง สร้างความสะดวก ความรวดเร็ว โปร่งใส และต้นทุนต่ำให้กับประเทศ ตามเป้าประสงค์ที่กำหนดในยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุล และพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และแผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สถาบันการเงินของภาครัฐและเอกชนรวม 11 แห่ง และ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด หรือ NDID ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับกรมสรรพากร ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกรมสรรพากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมมือกันเพื่อยกระดับบริการธุรกรรมภาษีให้รวดเร็ว โปร่งใสและมีต้นทุนต่ำ โดยเชื่อมต่อกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของ NDID เพื่อให้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัล สามารถนำมาใช้ในการสนับสนุนข้อมูลการให้บริการธุรกรรมภาษีของกรมสรรพากร ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนเทคโนโลยีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ กรมสรรพากร สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ และ NDID จะนำโครงการนี้เข้าสู่การทดสอบ Digital Service Sandbox ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้ระบบอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง 2 แห่ง และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ทุกภาคส่วน ก่อนจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในวงกว้างต่อไป โดยเชื่อมั่นว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันส่งมอบบริการที่ดีให้กับภาคประชาชนและภาคธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อ มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ที่ผ่านมา ภาคธนาคารได้ให้ความร่วมมือในการตอบสนองนโยบายด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรหลายด้าน อาทิ การคืนภาษีผ่านพร้อมเพย์, การจ่ายชำระภาษีต่างๆ ผ่าน Bill Payment, การให้บริการ e-Withholding Tax และในปี 2564 ได้ร่วมมือกับกรมสรรพากรผ่านการให้บริการของ NDID ที่มีภาคธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นหลักในการให้บริการพิสูจน์ตัวตน เพื่อประกอบการยื่นเสียภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และการตรวจสอบข้อมูลลดหย่อนผ่านแพลตฟอร์ม NDID ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มแรก และแพลตฟอร์มเดียวที่ผ่านการทดสอบนวัตกรรมหรือบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Service Sandbox) ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์”
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยว่า การพัฒนาและเชื่อมโยงระบบการพิสูจน์ และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลผ่าน NDID Platform ระหว่างกรมสรรพากร และภาคสถาบันการเงินในครั้งนี้ ยังสามารถสร้างความมั่นใจในการเข้าถึงการให้บริการด้านดิจิทัลและการนำข้อมูลด้านภาษีไปใช้ประโยชน์ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและภาคธุรกิจในการทำธุรกรรมด้านภาษีกับกรมสรรพากรได้มากขึ้น สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จึงสนับสนุนให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้บริการดังกล่าว เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น
โดยปัจจุบัน มีสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ให้บริการทางการเงินด้วยระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลผ่าน NDID Platform และในระยะต่อไป ธนาคารสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จะเร่งพัฒนาระบบในการให้บริการประชาชนต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้การบริการด้านภาษีมีประสิทธิภาพ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลให้ขยายวงกว้างได้มากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย
ทั้งนี้ ธนาคาร 11 ธนาคารที่เข้าร่วมลงนาม ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (TTB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 65)
Tags: NDID, กรมสรรพากร, ธนาคารพาณิชย์, ภาษี, ระบบยืนยันตัวตน, เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี, เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ