บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ได้รับงานติดตั้ง Solar Rooftop โครงการเมกาบางนา (Megabangna) จำนวน 13 อาคาร พื้นที่หลังคารวม 62,000 ตารางเมตร ขนาดการผลิตไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ มูลค่า 245 ล้านบาท ของ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (SFD) ถือเป็นการตอกย้ำแผนการขับเคลื่อนการขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง
โครงการเมกาบางนา ถือเป็นการดำเนินการติดตั้งระบบ Solar Rooftop นอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการให้บริการในธุรกิจติดตั้งระบบ Solar Rooftop ซึ่งจะรวมไปถึงบริการหลังการขายให้กับลูกค้าเป็นระยะเวลา 20 ปี โดยมีแผนดำเนินการติดตั้งตั้งแต่ภายในเดือน มิ.ย.65 นี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.66 พร้อมทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันที
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป โดยตั้งเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ จากปีก่อนที่มียอดเซ็นสัญญา 92 เมกะวัตต์
ภายในไตรมาส 2/65 นี้ บริษัทเตรียมเซ็นสัญญาติดตั้งระบบ Solar Rooftop อีกประมาณ 3 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 15.9 เมกะวัตต์ และเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จำนวน 4 โครงการ ภายใต้กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 22.56 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจว่า เป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สะสมในปี 2565 มีโอกาสเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน
นางพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFD ระบุว่า ศูนย์การค้าเมกาบางนาเล็งเห็นถึงความสำคัญของการติดตั้ง Solar Rooftop นอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า ตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,040 ล้านบาท ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) สู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 210,592 ตัน ตามนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจกได้อีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 65)
Tags: WHAUP, ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์, หุ้นไทย, โซลาร์รูฟ