นายรัฐวิชญ์ ณ ลำพูน ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 65 เติบโตตามเป้าหมาย 20-25% หลังจากบริษัทตุนงานในมือ (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะมาจากงานออกแบบพร้อมก่อสร้าง, งานปรึกษาออกแบบ และงานบริหารโครงการควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งแบ็กล็อกดังกล่าวจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เฉลี่ย 3-4 ปีนับจากนี้ อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานต่างๆ ทั้งโครงการภาครัฐ และเอกชนต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทมีโอกาสเข้าประมูล และได้รับงานเข้ามาเสริมพอร์ตแล้วแน่นอน มูลค่ารวมกว่า 700 ล้านบาท โดยในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. 65 ที่ผ่านมาได้มีการเซ็นสัญญารับงานแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 161.02 ล้านบาท อาทิเช่นเช่นงานสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบผังแม่บททางวิ่งทางขับลานจอดเครื่องบินและองค์ประกอบอื่น ๆ และศึกษารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ และงานสัญญาจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรมเศรษฐกิจ การเงินและผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือส่วนทดแทนตอน N1 เป็นต้น
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญางานในโครงการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีม่วงภายในต้นเดือน มิ.ย. 65 นี้ เบื้องต้นมีมูลค่าหลักร้อยล้านบาทแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเข้ารับงานศึกษาออกแบบของภาคเอกชนในโครงการขนาดใหญ่เข้ามาเพิ่มเติมด้วย รวมไปถึงงานควบคุมก่อสร้างของโครงการรถไฟรางคู่ (เด่นชัย) เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 จะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 เนื่องจากการทยอยส่งมอบงานในมือ รวมถึงการดำเนินงานในส่วนต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย สะท้อนจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 ที่กลับมาเติบโตได้ค่อนข้างดี รวมไปถึงการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายในทุกภาคส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษา หรือหาโอกาสในการสร้างรายได้เข้ามาเสริมพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระจายความเสี่ยงในการพึ่งพาธุรกิจส่วนใดส่วนหนึ่งมากจนเกินไป ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 65)
Tags: IND, รัฐวิชญ์ ณ ลำพูน, หุ้นไทย, อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล