กลุ่มโรงกลั่นปรับขึ้นรับปัจจัยบวกจากโรงกลั่นเกาหลีใต้เกิดเพลิงไหม้ โบรกฯมองอาจทำให้ supply ที่ตึงตัวเพิ่มขึ้น
เมื่อเวลา 10.37 น.
- TOP ปรับขึ้น 1.75% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 58.25 บาท มุลค่าซื้อขาย 106.31 ล้านบาท
- SPRC ปรับขึ้น 1.71% หรือเพิ่มขึ้น 0.20 บาท มาที่ 11.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 157.60 ลานบาท
- ESSO ปรับขึ้น 1.42% หรือเพิ่มขึ้น 2.50 บาท มาที่ 178.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 67.26 ล้านบาท
- BCP ปรับขึ้น 0.72% หรือเพิ่มขึ้น 0.25 บาท มาที่ 35.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 49.78 ล้านบาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า วานนี้โรงกลั่นของ S-Oil (โรงกลั่นในประเทศเกาหลี) เกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่ยังไม่ระบุว่าหน่วยกลั่นใดที่ได้รับความเสียหายบ้าง ความเสียหายรุนแรงเท่าใด และต้องใช้เวลาซ่อมแซมเท่าใด อย่างไรก็ตาม มอง Positive ต่อแนวโน้มที่ spread ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีอาจปรับตัวขึ้น จาก supply ตึงตัวมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ไฟไหม้โรงกลั่น S-Oil
นอกจากนี้ ยังประเมินผลกระทบต่อ supply ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทั่วโลกได้จำกัด เนื่อวจากยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดความเสียหายและการซ่อมแซม แต่เบื้องต้นคาดกลุ่มที่มีแนวโน้มได้ประโยชน์มากสุดจะเป็นกลุ่มโรงกลั่น ที่เดิม supply ทั่วโลกตึงตัวอยู่แล้ว รองลงมาเป็นปิโตรเคมีที่อาจได้ประโยชน์ในระยะสั้น เพราะ PX/BZ/PP มี oversupply อยู่ เมื่อ spread ปรับเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำลังการผลิตส่วนเกินโดยเฉพาะในจีนและมาเลเซียจะเริ่มผลิตมากขึ้น ส่วนฝั่งน้ำมันดิบ เรามองเป็นผลเชิงลบ เพราะ demand น้ำมันดิบอาจหายไปจากโรงกลั่น S-Oil โดยหากคิดที่กำลังการกลั่น 669 KBD จะคิดเป็นราว 0.8% ของการใช้น้ำมันดิบทั่วโลก ทั้งนี้ คาดกำลังการผลิตโรงกลั่นของ S-Oil คิดเป็นราว 0.7% ของกำลังการผลิตโรงกลั่นทั่วโลก ส่วน PX/BZ/PP คิดเป็นราว 2.5%/ 0.9%/ 0.4% ของกำลังการผลิตทั่วโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 65)
Tags: BCP, ESSO, SPRC, TOP, หุ้นกลุ่มโรงกลั่น, หุ้นไทย