นายเออิสุเกะ ซากากิบาระ อดีตรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเจ้าของฉายา “มิสเตอร์เยน” คาดการณ์ว่า เงินเยนมีแนวโน้มทรุดตัวลงจนถึงระดับเดียวกับในปี 2533 เนื่องจากทิศทางนโยบายการเงินของญี่ปุ่นและสหรัฐมีความแตกต่างกันมากขึ้น
นายซากากิบาระซึ่งเคยสามารถสร้างอิทธิพลให้กับสกุลเงินเยนเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นในช่วงปี 2540-2542 นั้น กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างนโยบายคุมเข้มทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมาก และคาดว่าเงินเยนจะเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยนี้ต่อไปจนกว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศจะหดแคบลง
“ตลาดคาดการณ์ว่า เงินเยนจะอ่อนค่าลงสู่กรอบ 140-150 เยนต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเงินเยนจะทรุดตัวลงจนถึงระดับเดียวกับในปี 2533 หากเงินเยนร่วงทะลุระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ไปได้ ผมคิดว่า BOJ จะต้องรู้สึกกังวลอย่างแน่นอน” นายซากากิบาระกล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก โดยปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย Aoyama Gakuin University
ทั้งนี้ นักลงทุนแห่เทขายเงินเยนอย่างหนักในปีนี้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนลดการถือครองเงินเยนและหันไปซื้อดอลลาร์ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ขณะที่ BOJ ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน แม้ว่าต้องเผชิญกับการทรุดตัวของเงินเยนก็ตาม
เงินเยนทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 131.35 เยนต่อดอลลาร์ในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ เงินเยนยังเป็นสกุลเงินที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาประเทศในกลุ่ม G10 ซึ่งประกอบด้วย ญี่ปุ่น เบลเยียม แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 65)
Tags: ญี่ปุ่น, นโยบายการเงิน, เงินเยน, เออิสุเกะ ซากากิบาระ