นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดีฟู้ด (JDF) เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 1/65 (สิ้นสุด 31 มี.ค.65) มีรายได้อยู่ที่ 138.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.02 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.01 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการในไตรมาสดังกล่าวแม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งส่งผลให้การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศล่าช้าลง แต่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง หรือ ไตรมาส 3/65 มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดี
และบริษัทยังมั่นใจเป้าหมายรายได้ทั้งปี 65 คาดว่าจะเติบโต 25% จากปี 64 ที่มีรายได้อยู่ที่ 585.7 ล้านบาท หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งส่งผลให้ความต้องการอาหารทั้งในห้างสรรพสินค้าและสตรีทฟู้ด เริ่มกลับมาเป็นปกติและยังมีสินค้าใหม่ โปรตีนอบกรอบ และเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งครบแล้วน่าจะสร้างยอดขายในไตรมาส 4/65 ให้ดีขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสินค้าที่หลากหลาย มีการให้บริการที่ครบวงจร (one stop service) สามารถดูแลและให้คำปรึกษาลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในหลายอุตสาหกรรมในการวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารตามความต้องการของลูกค้า ประกอบกับมีโรงงานและสินค้ามีคุณภาพรับรองจากมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ JDF ยังมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารมากกว่า 30 ปี โดยปัจจุบันมีทีมวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารกว่า 22 คน พัฒนาสูตรเครื่องปรุงรสมาแล้วกว่า 2,000 รายการ ให้แก่ลูกค้ากว่า 300 ราย
“ถึงแม้ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปีนี้จะออกมาไม่ดีนักด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่เข้ามากระทบ แต่แนวโน้มไตรมาส 2/65 ตัวเลขยอดขายและกำไรจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้น และเรายังได้รับ Order สินค้าแป้งชุบทอด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทที่เพิ่งพัฒนาร่วมกับลูกค้าเมื่อต้นปีนี้ รวมทั้งยังมี Plan ออก Protein Snack แบรนด์ใหม่ในไตรมาส 3 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายตลาดไปที่เวียดนาม ตามแผนงานที่ได้วางไว้ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะได้เห็นการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศดังกล่าว ซึ่งมีเศรษฐกิจหรือจีดีพีเติบโตสูงในระดับภูมิภาคประมาณปลายปีนี้หรือต้นปี 66”
นางสาวรัตนา กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 65)
Tags: JDF, รัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์, หุ้นไทย, เจดีฟู้ด