นายกฯ สั่งหน่วยงานปรับแผนเบิกจ่ายงบให้ทันเวลา เน้นแก้ความยากจนเป็นลำดับแรก

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนให้แล้วเสร็จ พร้อมทั้งมอบหมายให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล มีการติดตาม เร่งรัด และประเมินผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมาย หากพบว่ารายการใดหมดความจำเป็นหรือคาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณก็ให้พิจารณาปรับแผนปฏิบัติการและการใช้จ่ายไปดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนเป็นอันดับแรกตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อเป็นกลไกการขจัดปัญหาความยากจน สอดคล้องกับสถานการณ์ข้อเท็จจริงและบริบทของแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ สำนักงานประมาณได้รายงานความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.64-มี.ค.65) รวมระยะเวลา 6 เดือนมีการเบิกจ่ายแล้ว 1.59 ล้านล้านบาท คิดเป็น 51.40% ของงบประมาณทั้งหมด 3.1 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 0.40% มีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว 1.82 ล้านล้านบาท คิดเป็น 58.73% สูงกว่าเป้าหมาย 2.49% เฉพาะรายจ่ายด้านการลงทุนมีการเบิกจ่ายแล้ว 1.91 แสนล้านบาท คิดเป็น 31.48% ของวงเงินรายจ่ายลงทุนรวม 6.08 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 2.48% มีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว 4.04 แสนล้านบาท คิดเป็น 66.43% สูงกว่าเป้าหมาย 8.28%

อย่างไรก็ตาม รายจ่ายลงทุนในปีงบประมาณ 2565 ทั้งสิ้น 112,163 รายการ วงเงินรวม 6.08 แสนล้านบาทนั้น ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/65 มีรายการที่เข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว 80,727 รายการ วงเงินรวม 5.02 แสนล้านบาท คงเหลือสถานะไม่อยู่ในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 31,436 รายการ วงเงิน 1.06 แสนล้านของ 568 หน่วยงาน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโครงการที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง 4,374 รายการ วงเงิน 3.12 หมื่นล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวม ตลอดจนรายจ่ายเพื่อการลงทุนที่ดำเนินการได้เกินกว่าเป้าหมายนั้นมาจากนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่เร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวต้องการแรงสนับสนุนจากเม็ดเงินของภาครัฐ โดยนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการตั้งแต่ต้นปีงบประมาณให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายและการก่อหนี้ผูกพันแต่ละไตรมาส

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top