AGE ขยับเป้ารายได้ปีนี้เป็น 1.6 หมื่นลบ.รับดีมานด์ถ่านหินพุ่ง-รุกธุรกิจเทรดดิ้ง

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจ ผ่านการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง บวกกับความต้องการใช้สินค้าทั้งถ่านหิน ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และธรุกิจให้บริการขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้าที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น และยังมีการขยายการเติบโตไปยังธุรกิจเทรดดิ้งด้านการจำหน่าย และการส่งออกสินค้าเกษตร ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มมูลค่าให้ผลการดำเนินงานของปี 65 เติบโตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทปรับเป้ารายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหิน 12,500 ล้านบาท ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ฯ 2,500 ล้านบาท และธุรกิจเทรดดิ้ง ส่งออกสินค้าทางการเกษตร 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 3,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 3,577.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ 136.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กำไรสุทธิแตะ 314.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 160% ที่มีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท

ถึงแม้ว่าดัชนีราคาถ่านหินโลกยังคงมีการปรับตัวค่อนข้างผันผวนแต่ AGE มีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่งผลให้กลุ่มบริษัทสามารถรักษาส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาต้นทุนของถ่านหินได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และการเปิดประเทศ ส่งผลให้ภาคธุรกิจกลับมาฟื้นตัว ขณะที่ธุรกิจบริการโลจิสติกส์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งเกี่ยวกับสินค้าประเภทปูนซีเมนต์ ทราย แก้ว และกากอุตสาหกรรมกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น

นายพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจการจำหน่ายถ่านหินซึ่งเป็นธุรกิจหลัก (Core Business) ควบคู่กับการปรับกลยุทธ์ขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 เติบโตอย่างโดดเด่น

ส่วนการขยายธุรกิจในไตรมาส 2/65 ยังคงเดินหน้าขยายการตลาดแบบเชิงรุกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจการจำหน่าย และส่งออกสินค้าทางการเกษตร ภายใต้บริษัท เอจีอี อกริ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วง H2/65 โดยได้มีการตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจเทรดดิ้ง ส่งออกมันสำปะหลัง จำนวน 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนขยายพื้นคลังเก็บสินค้าเพิ่มอีก 10,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินสำหรับการพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าดังกล่าวประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการกองเก็บสินค้าทางการเกษตรเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีคลังเก็บสินค้าที่ให้บริการอยู่แล้วจำนวน 5 หลัง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีพื้นที่คลังสำหรับการจัดเก็บสินค้าทั้งหมด 22,400 ตารางเมตร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top