BIS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20-25% ขยายธุรกิจปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร

นายสัตวแพทย์ ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ (BIS) คาดว่า รายได้รวมปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 20-25% โดยรายได้หลักของบริษัทฯ มาจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำของอุตสาหกรรมอาหาร และรายได้บางส่วนจากธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงซึ่งมีการเติบโตสูง โดยบริษัทฯ พยายามที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงขึ้น

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้รวม 540 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 429 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26% และมีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท เติบโต 47% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.5 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ 1. กลุ่มยาและวัคซีนสัตว์ (Animal Health) 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสัตว์ (Nutrition) ซึ่งเติบโตสูง และ 3. กลุ่มชุดตรวจโรคสัตว์ (Diagnostic) ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มรวมกันสร้างรายได้ 65% ของรายได้รวม โดยเฉพาะชุดตรวจโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) มีการเติบโตของรายได้เติบโตสูงสุด เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญในการควบคุมการแพร่กระจายของโรคนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์โดยตรง จึงมีความต้องการสูงจากกลุ่มฟาร์มสุกร นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์กลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ มีรายได้เติบโตสูงเช่นกัน

ในไตรมาสนี้ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 17% เป็นอัตรากำไรสุทธิ 3.14% และสร้างอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ดี โดยล่าสุดอยู่ที่ 29% โดย BIS ใช้กลยุทธ์การผลิตสินค้าแบรนด์ของบริษัทฯ เองแทนการจ้างผลิต เพื่อเพิ่มรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ วัตถุดิบอาหารสัตว์ และลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาวัคซีนสำหรับสัตว์เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ทดแทนการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ และการเพิ่มสินค้าใหม่ที่ช่วยขยายตลาด โดยในปีนี้ BIS ได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายอาหารสุนัขระดับโลก แบรนด์ Pedigree แบรนด์ Cesar และอาหารแมว แบรนด์ Whiskas เป็นต้น ให้กับกลุ่ม บริษัท มาร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ โดยมุ่งทำตลาดในกลุ่มโรงพยาบาลสัตว์ และคลินิครักษาสัตว์ทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง และคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ยา วัคซีน และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์และสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว จากการเปิดเมือง การท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ฟาร์มสุกร เริ่มฟื้นตัว ทำให้มีความต้องการ ยา วัคซีน วิตามินและเสริมอาหาร ตลอดจนชุดตรวจโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนสุกร

นอกจากนี้คาดว่าปีนี้ปริมาณการส่งออกอาหารเพิ่มมากขึ้นประมาณ 20% เป็น 1,200,000 ตัน ทำให้ BIS ซึ่งอยู่ในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมอาหารได้รับประโยชน์โดยตรง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top