ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน หลังบอนด์ยีลด์ร่วง-จีนเผยเงินเฟ้อเดือนเม.ย.

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน โดยตลาดบางแห่งได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 3% เมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนซึมซับตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของจีนที่เพิ่มสูงกว่าคาดการณ์

  • ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,249.83 จุด เพิ่มขึ้น 82.73 จุด หรือ +0.32%
  • ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,971.18 จุด เพิ่มขึ้น 337.49 จุด หรือ +1.72% และ
  • ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,085.43 จุด เพิ่มขึ้น 49.59 จุด หรือ +1.63%

ตลาดได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.952% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.074% เมื่อคืนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายถูกกดดัน หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.ที่ขยับขึ้น 1.5% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 1.9%

ทั้งนี้ ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากระบบโลจิสติกส์ของจีนยังคงได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน เพิ่มขึ้น 8% ในเดือนเม.ย. ชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค. ที่ปรับตัวขึ้น 8.3% อย่างไรก็ดี ดัชนี PPI เดือนเม.ย.อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.7%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top