นายโมฮัมหมัด ฟาอีซ นากูทา นักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ซีเคียวริตีส์ (BofA Securities) เปิดเผยว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงรุนแรงที่จะเกิดความวุ่นวายในสังคม หากราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้นมาก
นายนากูทาให้สัมภาษณ์ในรายการ “Street Signs Asia” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “นั่นเป็นเพราะจำนวนเงินที่คนในประเทศต่าง ๆ เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และเวียดนาม ใช้จ่ายไปกับค่าอาหารมีสัดส่วนที่สูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ”
“แต่จะว่าไป ภาวะเงินเฟ้อด้านอาหารในอาเซียนยังอยู่ในวงจำกัดและมีความเสี่ยงน้อยกว่าในอดีตเล็กน้อย เพราะเราพึ่งพาการค้าในภูมิภาคในปริมาณมาก นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลออกมาเพื่อสกัดเงินเฟ้อด้านราคาอาหาร”
นายนากูทากล่าว
นายนากูทาเพิ่มเติมว่า แม้ภาวะเงินเฟ้อในภูมิภาคจะพุ่งสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับแนวโน้มในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เขาระบุว่า สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเดือนและไตรมาสข้างหน้า
ขณะเดียวกัน เขาก็ได้เตือนว่า ราคาสินค้าจะปรับตัวขึ้นอยู่ดีในท้ายที่สุด แม้รัฐบาลหลายประเทศจะหวังว่า ราคาสินค้าจะค่อย ๆ ขยับลง
ข้อมูลจากโฟกัสอีโคโนมิกส์ (FocusEconomics) บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลเปิดเผยว่า ภาวะเงินเฟ้อในภูมิภาคเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.5% ในเดือนมี.ค.จากระดับ 3% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ นายนากูทายังเพิ่มเติมว่า ความต้องการในตลาดจะมีส่วนผลักดันให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจและปริมาณการใช้บริการต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มแรงกดดันด้านต้นทุนที่ภาคธุรกิจต้องแบกรับ และจะหาทางผลักภาระด้านต้นทุนบางส่วนไปให้กับผู้บริโภค และเมื่อรวมกับเงินเฟ้อด้านราคาน้ำมันและอาหารทั่วโลก ก็จะทำให้เงินเฟ้อโดยรวมในภูมิภาคสูงขึ้นในที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 65)
Tags: BofA Securities, ราคาอาหาร, อาเซียน, เงินเฟ้อ, โมฮัมหมัด ฟาอีซ นากูทา