ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกรับเฟดขึ้นดบ.ตามคาด แม้จีนเผย PMI ร่วงหนัก

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดพุ่งขึ้นอย่างมาก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ปฏิเสธแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,006.67 จุด เพิ่มขึ้น 137.15 จุด หรือ +0.66% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,080.77 จุด เพิ่มขึ้น 33.71 จุด หรือ +1.11%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (5 พ.ค.) เนื่องในวันเด็ก

บรรยากาศการซื้อขายในภูมิภาคได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75% – 1.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) โดยขณะนี้มีมูลค่ารวม 8.9 ล้านล้านดอลลาร์

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างมากและอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งเฟดจะเร่งดำเนินการให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานแล้วนั้น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนหดตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนเม.ย. เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลให้ภาคบริการของจีนหยุดชะงัก ซึ่งเป็นเหตุให้จำนวนธุรกิจใหม่ ๆ และการจ้างงานปรับตัวลงอีก

ทั้งนี้ ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย.ของจีนร่วงลงสู่ระดับ 36.2 จากระดับ 42 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีเดือนเม.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดอันดับที่สองนับตั้งแต่ไฉซินเริ่มทำการสำรวจในเดือนพ.ย. 2548 ส่วนสถิติต่ำสุดนั้นอยู่ที่ 26.5 ในเดือนก.พ. 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในจีน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top