เงินบาทเปิด 34.44 อ่อนค่าตามค่าเงินภูมิภาค หลังบอนด์ยิลด์พุ่งหนุนดอลลาร์แข็งค่า

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.44 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.18 บาท/ดอลลาร์

บาทอ่อนค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค โดยเมื่อคืนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 3% ถือว่าสูงสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค.61 ซึ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้

“วันนี้เนื่องจากเป็นวันหยุดของประเทศญี่ปุ่น ตลาดจึงอาจเบาบาง ส่วนเมื่อคืนนี้ทองคำลงแรง หลุดระดับ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ ไปแล้ว วันนี้จึงอาจมี flow นำเข้าทองคำได้” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรออบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.35 – 34.55 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (29 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.55263% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.65843%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 130.03 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 130.02 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0516 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0579 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร ของธปท. อยู่ที่ระดับ 34.338 บาท/ดอลลาร์
  • ตลาดหุ้นจีนปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันแรงงาน ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (2 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 3-4 พ.ค.นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงภายหลังการประชุมของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือน ก.พ.
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองในเดือนเม.ย. โดยลดลงแตะ 55.4 จากระดับ 57.1 เมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 57.6 ในเดือนเม.ย.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (2 พ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค.
  • นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไทยจากระดับ “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” (Overweight) สู่ระดับ “คงน้ำหนักการลงทุน” (Neutral) ในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวค่อนข้างช้า อันเป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ในจีนซึ่งยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน เม.ย.จาก ADP, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน เม.ย. จากเอสแอสด์พี โกลบอล, ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top