เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยทรุดตัวลงแตะระดับ 130 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2545 หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ในการประชุมวันนี้
ทั้งนี้ BOJ มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% ขณะเดียวกัน BOJ ย้ำว่าจะเดินหน้าคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น เกิดจากปัจจัยชั่วคราว
นอกจากนี้ BOJ ระบุว่า จะยังคงเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกวันทำการ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือเพดานที่ BOJ กำหนดไว้
ความมุ่งมั่นดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐจะทิ้งห่างกันมากขึ้น และจะยิ่งทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีก ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้งเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
เงินเยนอ่อนค่าลงติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินดอลลาร์และเทขายเงินเยน หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.75% จนแตะระดับ 3.5% ภายในสิ้นปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์หลายราย ซึ่งรวมถึงนักวิเคราะห์จากบริษัทไดวา แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า นักลงทุนกระหน่ำขายเงินเยนกันอย่างต่อเนื่อง เพราะคาดว่า BOJ จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำต่อไป ซึ่งสวนทางกับเฟดที่ต้องการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทบราวน์ บราเธอร์ส แฮร์รีแมน แอนด์ โคกล่าวว่า ตราบใดที่ BOJ ยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เงินเยนก็จะอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ และการเข้าแทรกแซงตลาดของ BOJ ก็แทบจะไม่ได้ผล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 65)
Tags: BOJ, lifestyle, ญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, นโยบายการเงิน, เงินเยน