พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมอนุมัติเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่มอีก 100-250 บาท/เดือน ขึ้นกับแต่ละช่วงอายุ เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ เม.ย.-ก.ย.65 คาดว่าจะช่วยจะมีผู้ได้รับความช่วยเหลือกว่า 10 ล้านคน ใช้วงเงินมากกว่า 8 พันล้านบาท
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.วันนี้อนุมัติในหลักการการเพิ่มสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.65 โดยเพิ่มจากอัตราเดิมเฉลี่ยรายละ 100-250 บาท แตกต่างกันตามช่วงอายุ ดังนี้
- ช่วงอายุ 60-69 ปี จำนวน 6,471,205 คน เดิม 600 บาท/เดือน เพิ่ม 100 บาท/เดือน รวมเป็น 700 บาท/เดือน
- ช่วงอายุ 70-79 ปี จำนวน 3,012,407 คน เดิม 700 บาท/เดือน เพิ่ม 150 บาท/เดือน รวมเป็น 850 บาท/เดือน
- ช่วงอายุ 80-89 ปี จำนวน 1,216,591 คน เดิม 800 บาท/เดือน เพิ่ม 200 บาท/เดือน รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน
- ช่วงอายุ 90 ปีขึ้นไป จำนวน 196,241 คน เดิม 1,000 บาท/เดือน เพิ่ม 250 บาท/เดือน รวมเป็น 1,250 บาท/เดือน
พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา ดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลางต่อเพื่อจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุต่อไป
ในกรณีผู้สูงอายุที่ถูกระงับสิทธิเนื่องจากได้รับสวัสดิการอื่นซ้าซ้อนจากรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ยังให้ได้รับสิทธิการเพิ่มสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในครั้งนี้ด้วย โดยจะได้รับเมื่อมีการออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ อปท.ใหม่ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คาดว่าผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพมีจำนวน 10.90 ล้านคน เป็นเงินจำนวน 8,348.16 ล้านบาท
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เคยมีมติในปื 2563 เห็นชอบให้ พม.ดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน (กลุ่มคนเปราะบาง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ) ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 จาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ 2563 จ่ายเงินเยียวยาโดยตรง (จ่ายครั้งเดียว) รายละ 3,000 บาทเพิ่มเติม จากเบี้ยเดิมที่ได้รับปกติในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. 63 โดยมีผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 4.06 ล้านคน วงเงินรวม 12,169.788 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อรายได้ และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ผู้สูงอายุได้รับผลกระทบทางรายได้คิดเป็น 50.7% ของผู้สูงอายุทั้งหมด และรายได้ของผู้สูงอายุที่มาจากการทำงานมีสัดส่วนลดลงจาก 40% เหลือเพียง 22% นอกจากนี้ผู้สูงอายุยังได้รับเงินจากบุตรหลานน้อยลง ดังนั้น พม.จึงเสนอขออนุมัติเพิ่มสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุฯ ในครั้งนี้ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.65 เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจให้กับผู้สูงอายุ และเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมและสามารถพึ่งพาตนเองได้ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 65)
Tags: ประชุมครม., ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ผู้สูงอายุ