นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสย่อตัวลงหลังประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.5% จำนวน 2-3 ครั้ง
เพื่อแก้ไขอัตราเงินเฟ้อ แต่ยังเป็นไปตามตลาดคาด ขณะที่คาดประชุม ศบค. ชุดใหญ่ผ่อนคลายมาตรการเข้าออก
ประเทศหนุนดัชนี พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,680 จุด และ แนวต้าน 1,700 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นช่วงเช้านี้มีโอกาสที่จะย่อตัวลง หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค. และจะมีการปรับขึ้นในระดับนี้ 2-3 ครั้ง เพื่อที่จะแก้ไขอัตราเงินเฟ้อ
โดยต้องติดตามปัจจัยหลักคือ การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่อาจมีการพิจารณาปรับรูปแบบและมาตการป้องกันในระดับต่างๆ รวมถึงผ่อนคลายมาตรการการเข้า-ออก ประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ
“แม้ว่าในครั้งนี้ประธานเฟดดู aggressive มากกว่าครั้งที่ผ่านๆมา แต่จะเห็นได้ว่ายังคงเป็นไปตาม consensus ที่ออกมาว่าจะมีการปรับขึ้นในอัตรา 0.5% จำนวน 2-3 ครั้ง จึงมองว่าดัชนีจะย่อตัวลงเล็กน้อยและสามารถยืนได้ โดยคาดว่าการประชุม ศบค. ชุดใหญ่จะมีการผ่อนคลายมาตรการเข้าออกประเทศเข้ามาช่วยหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยได้”นายวิจิตร กล่าว
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,680 จุด และ แนวต้าน 1,700 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,792.76 จุด ลดลง 368.03 จุด หรือ -1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,393.66 จุด ลดลง 65.79 จุด หรือ -1.48% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,174.65 จุด ลดลง 278.41 จุด หรือ -2.07%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,197.80 จุด ร่วงลง 355.26 จุด หรือ -1.29% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,058.40 จุด ลดลง 21.41 จุด หรือ -0.70% และตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,261.61 จุด ลดลง 420.61 จุด หรือ -2.03%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 เม.ย.) ที่ระดับ 1,690.55 จุด เพิ่มขึ้น 10.20 จุด, +0.61%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 786.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 เม.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.(21 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 103.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 เม.ย.) อยู่ที่ 18.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.93 แนวโน้มอ่อนค่า มีโอกาสทดสอบ 34.00 จับตาประชุมศบค.วันนี้
- นายกฯสั่งศึกษา แหล่งเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ ชี้ไม่จำเป็นต้องกู้ ต้องรักษาวินัยการคลัง มั่นใจเศรษฐกิจเริ่มฟื้น “อาคม” สั่งประเมินผลกระทบเศรษฐกิจก่อนดันคนละครึ่งเฟส 5 สศช.ชี้กู้เงินต้องรอบครอบและจำเป็น เร่งด่วน แนะเผื่อพื้นที่การคลังไว้รองรับวิกฤติใหม่ “ไข่-หมู” พาเหรดขึ้นราคาหน้าฟาร์ม ผู้เลี้ยงแบกต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งจากวิกฤติสงคราม มีผลวันนี้
- ศบค.เตรียมปรับโซนสีดีขึ้น ทุกจังหวัดอยู่ร่วมกับโควิด-19 ติดเชื้อแต่ประกอบอาชีพได้ ยกเลิก RT-PCR เข้าประเทศ Test and Go ใช้ ATK แทน เริ่ม 1 พ.ค.ส่วน Thailand Pass ใช้เท่าที่ จำเป็น “สทท.” หนุนเดินเครื่อง “อันล็อก ไทยแลนด์” เปิดประเทศเต็มรูปแบบ “อนุทิน” ยันระบบสาธารณสุขรับมือได้ให้เศรษฐกิจได้เดินหน้าต่อไป
- ส.อ.ท.แนะรัฐขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาท/ลิตรต่ออีก 3 เดือนหลังสิ้นสุด 20 พ.ค.นี้ หวั่นซ้ำเติมดีเซลที่ต้องขยับเพดาน 30 บาทต่อลิตร 1 พ.ค.65 หนุนพลังงานขึ้นเป็นขั้นบันได สกัดราคาสินค้าพาเหรดขึ้นราคา ผวาหนี้ครัวเรือนพุ่งฉุดแรงซื้อหด
- “คลัง” ยังไม่ตัดสินใจขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท ที่จะครบกำหนดอายุมาตรการ 20 พ.ค. แจงยังมีเวลาติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ขอพิจารณาผลดี-ผลเสีย และความจำเป็นอย่างรอบคอบก่อน จับตาธุรกิจขนส่งปรับค่าบริการขึ้น 15-20% หากรัฐเลิกตรึงดีเซล 1 พ.ค.นี้
หุ้นเด่นวันนี้
- SPRC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 12 บาท คาดประกาศงบไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 4.9 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 164%qoq และ 145%yoy จากค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.5$/bbl เทียบกับ 6$/bbl ในไตรมาส 4/64 ขณะที่ Crude run rate เพิ่มขึ้นเป็น 85% จาก 80% ในไตรมาส 4/64
- KTB (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 14.00 บาท กำไรไตรมาส 1/65 Surprise ตลาด +57%YoY, +78%QoQ ดีทุกบรรทัด สินเชื่อรวมโต +1.1%YTD ด้าน NPL ลดลงที่ 3.34% จากเดิม 3.5% นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 65 โดยประเมินการตั้งสำรองลดลง และสินเชื่อรวมที่ยังเติบโตต่อ ครึ่งหลังปี 65 ลุ้นการขายหนี้ให้กับกลุ่ม AMC , KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 2.86 หมื่น ลบ. และ 3 หมื่น ลบ. +32.5%YoY, +5.3%YoY ตามลำดับ
- SMT (ฟินันเซีย ไซรัส) “เก็งกำไร” มีแนวโน้มปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 6 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/65 ฟื้นดีกว่าที่เคยคาด +17% Q-Q, +6% Y-Y หลังปัญหาวัตถุดิบดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ทำให้รายได้และ Margin ฟื้นตัว ขณะที่ไตรมาส 2/65 คาดเร่งตัวจากตำสั่งซื้อของจริงที่ครอบคลุมทังไตรมาสและเริ่มยาวถึงไตรมาส 3/65 จากแนวโน้มกำไรที่ดูดีกว่าคาด ทำให้เรามีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นราว 13% จากปัจจุบันที่คาด +5% Y-Y และเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, วิจิตร อารยะพิศิษฐ์, หุ้นไทย